แม่พาลูกสาว 14 ร้องประธานกรรมการอัยการภาคประชาชน แจ้งถูกลูกชายคนมีชื่อเสียงในจังหวัดสุรินทร์ ทำอนาจารบนรถ โดยมีเพื่อนล่อลวงรับตัวเด็กหญิงมาจากบ้าน แจ้งความหลายเดือนคดีไม่คืบ ตำรวจบอก แต่ให้รอก่อน
วันนี้ ( 11 ก.ย.68) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้ากรณีหนุ่มสุรินทร์ ลูกชายร้านยาชื่อยัง ลวงเด็กหญิง 14 ไปทำอนาจารในรถยนต์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วเมื่อวานนี้ ล่าสุดว่า ที่สำนักงานอัยการจังหวัดสุรินทร์ อ.เมืองสุรินทร์ นายวิรัตน์ เศรษฐพัฒนชัย นายพงษ์ศักดิ์ พงษ์นุเคราะห์ศิริ และผศ.ดร.ชาตรีเกษ โพนทอง คณะกรรมการภาคประชาชน ได้พา (น.ส.เอ นามสมมุติ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 178/1 ถ.พรหมเทพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ พร้อมด้วย ด.ญ.บี อายุ 14 ปี ลูกสาว นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายณัพล พงษ์ปิยานุรัตน์ ประธานกรรมการอัยการภาคประชาชนจังหวัดสุรินทร์ หลังจากที่น.ส.หทัยรัตน์ฯ ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนพร้อมหลักฐานการแช็ตไลน์ต่อ คณะกรรมการภาคประชาชน
โดยหนังสือยื่นคำร้องระบุว่า เนื่องจากลูกสาวของตนเองได้ถูก นายคิด เป็นคนที่รับด.ญ.14 มาจากบ้าน และนายกร ลูกเจ้าของร้านขายยา ทั้ง 2 คน ล่อลวงลูกสาวของตนเองไปลวนลาม เจตนาไม่บริสุทธิ์ และตนเองได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมือง จ.สุรินทร์ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้รับแจ้งและไม่ดำเนินคดีใดๆจึงได้ทำหนังสือมาร้องเรียนร้องทุกข์ เพื่อร้องขอต่อประธานคณะกรรมการปกครอง และอัยการภาคประชาชนจังหวัดสุรินทร์ ให้ช่วยเหลือและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด หลังเกิดเหตุลูกสาวก็มีอาการซึมเศร้าอยู่ตลอดเวลาหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาพอสอบถามก็จะร้องให้ทุกครั้ง
น.ส.เอ ผู้เป็นแม่ บอกว่า ตนแจ้งความไปแล้วหลายเดือนแต่คดีไม่คืบ ทางจนท.ตำรวจบอกให้รอก่อน คดีนี้ต้องมีสหวิชาชีพร่วมสอบด้วย เลยต้องมาร้องกับคณะกรรมการภาคประชาชนให้ช่วยเหลือ อีกอย่างบ้านคู่กรณีก็อยู่ใกล้ๆกันเป็นคนที่รู้จักมักคุ้นกันด้วย พ่อ-แม่เขาก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงในจังหวัด และตนก็เป็นนายหน้าขายที่ดินและเสนอขายที่ดินให้ ที่ผ่านมาคู่กรณีนายกร ก็โทรมาหา ขอคุยบอกว่าขอเวลา แต่ตนก็ไม่อยากคุย เพราะเขาบอกแต่ว่า รอก่อนๆขอปรึกษาแม่ก่อน ซึ่งตัวเขาก็ยอมรับว่า เขาไม่ได้ตั้งใจ และไม่คิดว่าจะเป็นลูกของตน แล้วถ้าเป็นลูกคนอื่นจะขนาดไหน ซึ่งหลังเกิดเหตุทางตำรวจก็มีการเรียกตัวคู่กรณีเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว แต่ให้รอจะดำเนินการให้ ตนก็รอมาจนจะเข้า 3 เดือนแล้ว ซึ่งตอนแรกลูกไม่กล้าบอกตนเรื่องนี้ เพราะกลัว มีการขอไลน์พูดคุยว่าอย่าไปบอกแม่นะก็เอาเงินไปประมาณนั้น พอตนรู้เรื่องตนก็เข้ามาแจ้งความทันที ทุกอย่างตนมีหลักฐานหมด ในแช็ตไลน์
น.ส.เอ ยังเล่าถึง ตอนที่เกิดเหตุการณ์อีกว่า วันนั้นตนเดินทางไปที่ สปป.ลาว ปล่อยให้ลูกอยู่บ้าน นายคิด ได้เข้าที่บ้านเพื่อที่จะเอารถมาให้ตน และตนก็ให้ไปรับลูกชาย แต่ลูกชายไม่อยู่ นายคิดเลยไปล่อลวงลูกสาว แต่ไม่ได้พาไปเอารถ แต่กลับพาไปหานายกร ตามที่ลูกบอกตน มีการให้เงินกันและมีการเข้าไปลวนลามลูกสาวในรถ พอทราบเรื่องจากลูกสาวตนก็ได้เข้าไปแจ้งความ ที่ สภ.เมืองสุรินทร์ ตอนไปก็เจอตำรวจน่าจะยศใหญ่พอสมควร ไปปรึกษาเสร็จก็ยังไม่มีการดำเนินคดี ไปยื่นหลักฐานอะไรเสร็จก็บอกว่าให้รอก่อน เพราะต้องมีภาควิชาการต่างๆร่วมสอบ ตนก็รอแล้วรออีก จนได้มายื่นเรื่องร้องทุกข์ต่ออัยการในวันนี้ เพื่อจะมาร้องขอความเป็นธรรมตนในฐานะที่เป็นผู้ปกครองเด็กก็ไม่สบายใจและรับไม่ได้ในฐานะแม่ ซึ่งตนก็เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวด้วย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบจิตใจมากพร้อมจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
สำหรับ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 15.00 น. และมีการแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 เวลา 16.45 น.โดยมี พ.ต.ท.สมนึก บุญเจริญ พงส.สภ.เมืองสุรินทร์ เป็นเจ้าของคดี