ตม. ส่ง "นางเขื่อน" พร้อมครอบครัวกลับกัมพูชาพรุ่งนี้ เจ้าตัวมั่นใจ 3 ดือน กลับเข้าไทยได้

ตม. ส่ง "นางเขื่อน" พร้อมครอบครัวกลับกัมพูชาพรุ่งนี้ เจ้าตัวมั่นใจ 3 ดือน กลับเข้าไทยได้

View icon 3.3K
วันที่ 11 ก.ย. 2568 | 12.59 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (11 ก.ย. 68) ที่ สภ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ภายในห้องควบคุมที่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อดูแลผู้ต้องขัง เพื่อความปลอดภัยของผู้ต้องขังทุกคน พบว่า นางเขื่อน ที่อยู่ด้านหน้าห้องขัง และอยู่ในห้องขังแรกด้านทิศตะวันออก โดย นางเขื่อน ได้ลุกเดินไปเดินมาอยู่ตลอดเวลา เชื่อว่าคงน่าจะเครียดไม่จบ หลังจากที่เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 68 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดศรีสะเกษ ได้พิพากษาลงโทษให้เสียค่าปรับ 4 คน คลละ 3,000.-บาท ก่อนมาพักรอที่ สภ.ภูสิงห์ ก่อนผลักดันออกนอกราชอาญาจักรไทย ให้กลับกัมพูชาประเทศบ้านเกิดในเช้าวันนี้

ขณะเดียวกัน ได้มี นายประสิทธิ์ ซึ่งเป็นสามีคนไทย นำข้าวเช้าและเมนูพิเศษกุ้งเต้น ที่เป็นอาหารโปรดมาฝากด้วย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองศรีสะเกษ ได้เดินทางมาตรวจสอบ สอบปากคำ ก่อนประสานด่านปอยเปต จ.สระแก้ว แต่ปรากฏว่าด่านไม่เปิด จึงต้องประสานไปด่านอื่น พบว่าในวันพรุ่งนี้ (12 ก.ย. 68) ด่านผักกาด อ.แปลงยาว จ.จันทบุรี เปิด และอนุญาตให้นำตัวชาวกัมพูชาผลักดันออกนอกราชอาญาจักรได้ ซึ่งจะมี 8 คน คือ ทีมครอบครัวนางเขื่อน 7 คน เป็นคดีหลบหนีเข้าเมือง 3 คน คดีอยู่ในราชอาญาจักรเกินใบอนุญาต อีก 4 คน หลังจากได้รับคำพิพากษาแล้ว และมีผู้ต้องหาหลบหนีเข้าเมือง จาก สภ.โดนเอาว์ อีก 1 คน ฝากส่งตัวออกนอกประเทศ ด้วย

ร.ต.ท.ณยุทธ บุญเนตร รอง สว. ตม.ศรีสะเกษ ชี้แจงว่า ขั้นตอนของการส่งกลับประเทศของ นางเขื่อน กรณีอยู่เกิน คือ 1.นางเขื่อน อายุ 45 ปี ข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าว อยู่ในราชอาญาจักรไทย โดยการอนุญาตสิ้นสุด จำนวน 845 วัน 2.น.ส.ขิน อายุ 28 ปี ลูกสาวนางเขื่อน จำนวน 2,656 วัน 3.นายระตะนัก อายุ 30 ปี ลูกชาย นางเขื่อน จำนวน 3,462 วัน และ 4. น.ส.แสงสี อายุ 21 ปี หลานสาว นางเขื่อน โดยการอนุญาตสิ้นสุด จำนวน 85 วัน ต้องโทษห้ามเข้าประเทศ 10 ปี ในกรณีอยู่เกิน 1 ปี แต่หากไม่เกิน 1 ปี ห้ามเข้า 5 ปี โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ถึงเปิดด่านช่องสะงำ กรณีห้ามเข้าก็คือห้ามเข้า ไม่มียกเว้น

ด้าน พ.ต.อ.พฤทธิ์ บุญปก ผกก.สภ.ภูสิงห์ กล่าวว่า ซึ่งกรณี นางเขื่อน พร้อมครอบครัวเป็นเงื่อนไขการควบคุมผู้ต้องขังตามปกติ มีให้ข้าว ให้น้ำปกติ ตามเวลา เช้า เที่ยง และเย็น ไม่มีสิทธิพิเศษ เป็นผู้ต้องขังปกติ ซึ่งที่ผ่านมาในสถานการณ์ปกติก็จะประสานด่านช่องสะงำผลักดันออกได้เลย แต่กรรีวันนี้ไม่ปกติ ก็จะต้องประสานด่านที่เปิด ตม.ก็จะนำตัวผลักดันออกไปตามระเบียบ วันนี้ส่งตัวไม่ได้ ก็ต้องควบคุมไว้ต่อ โดยหลังจากที่ นางเขื่อน พร้อมลูก และหลาน ได้เข้ารับการสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหา สิทธิของการถูกผลักดันออกนอกราชอาญาจักรไทย ที่สำคัญคือ การมีโทษแบน ห้ามเข้าประเทศไทยในระยะ 10 ปีด้วย

อย่างไรก็ตาม นางเขื่อน กล่าวว่า มั่นใจว่าหลังถูกผลักดันออกจากไทยไป 3 เดือน ก็สามารถทำเอกสารจากกัมพูชาขอกลับเข้ามาอยุ่กับครอบครัวชาวไทยต่อได้ ต่อต้องรอด่านช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ เปิดก่อน เพราะตอนนี้บ้านที่อยู่กัมพูชาที่หมู่บ้านอัลลองเวง จ.อุดรมีชัย นั้น ตนขายบ้านเรือน ไร่นา ไปหมดแล้ว

ทั้งนี้ ในการมารับตัว นางเขื่อน พร้อมลูกหลานที่ถูกผลักดันออกนอกราชอาญาจักรในเช้าตรู่ของวันที่ 12 ก.ย. 68 ตั้งแต่เวลา 05.30 น. พร้อมโดนโทษแบนห้ามเข้าประเทศไทย ในระยะเวลา 10 ปี และแม่ หลาน ๆ นางเขื่อน อีก รวม 3 คน ที่โดนข้อหาหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งหากเดินทางออกไปแล้ว สามารถจัดทำเอกสาร ขอกลับเข้าไทยได้ทันที ไม่มีติดโทษแบนใด ๆ ตามกฎหมายไทย