“เพื่อไทย” ย้ำเจตนารมณ์เดิม เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ

“เพื่อไทย” ย้ำเจตนารมณ์เดิม เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ

View icon 45
วันที่ 11 ก.ย. 2568 | 13.04 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
“เพื่อไทย” ย้ำเจตนารมณ์เดิม เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ชี้ทางออก หลังศาล รธน.ห้าม ปชช.เลือก สสร.โดยตรง เผย ให้สภาฯ เลือกทางอ้อมได้ ส่วนทำประชามติครั้งที่ 1-2 เห็นควรทำพร้อมกันได้

วันนี้ (11 ก.ย.68) นายชูศักดิ์ ศิรินิล แถลงข่าว ในนามของพรรคเพื่อไทยต่อกรณีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ว่า จากการที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำใช้เมื่อวันที่ 10 กันยายน เรื่องอำนาจหน้าที่ของรัฐสภาในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามคำร้องของประธานรัฐสภาที่ได้ส่งไป อันสืบเนื่องมาจากการเสนอญัตติของสมาชิกวุฒิสภา นายเปรมศักดิ์ เพียยุระ 

เรื่องแรก คำวินิจฉัยฉบับเต็มก็ได้ติดตามคำแถลงซึ่งเป็นเอกสารที่ปรากฏอยู่ เกิดความสับสนและมีการถกเถียงกันในเรื่องคำวินิจฉัยหลายประเด็น  เช่น รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชน เลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญโดยตรงตีความได้ว่าเป็นการปฏิเสธหลัก สสร.ที่เลือกจากประชาชนโดยตรงจึงเห็นว่าขัดต่อหลักที่รับรู้กันมาว่า ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจประชาธิปไตยมีอำนาจที่จะสถาปนารัฐธรรมนูญได้ ซึ่งหากดูตามคำร้องที่ส่งไปที่ศาล ไม่ได้ร้องขอให้วินิจฉัย จึงมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเพราะญัตติของพรรคเพื่อไทยจึงจำเป็นต้องส่งคำร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ และการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องยุ่งยากและซับซ้อนตามคำวินิจฉัยที่ออกมา

นายชูศักดิ์ กล่าวต่อว่า หากประชาชนได้ติดตามเรื่องนี้ก็จะทราบอีกทีว่าทันทีที่มีการตัดสินใจบรรจุระเบียบวาระของพรรคประชาชน และของพรรคเพื่อไทยเข้าไปในรัฐสภา ในครั้งนั้นสมาชิกหลายคนบอยคอตไม่เข้าร่วมประชุม และบางฝ่ายก็บอกว่าหากมีการเดินหน้าต่อไปก็สามารถทำได้เพราะเรามีอำนาจในการวินิจฉัย พรรคเพื่อไทยเห็นว่ามันไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ จึงได้เป็นข้อยุติว่าให้สภามีมติเพื่อ ส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย

สำหรับสาระสำคัญ โดยรวมของคำแถลงรัฐธรรมนูญเมื่อวานนี้ ได้ความมติว่ารัฐสภามีอำนาจหรือแสดงความต้องการเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญต่อไปได้แต่ต้องให้ประชาชนออกเสียงประชามติให้ความเห็นชอบว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่เสียก่อน

ประเด็นถัดมาการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะต้องเป็นไปตามหมวด 15 การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีคำวินิจฉัยว่าการดำเนินการต้องเป็นไปตามบท

และประเด็นต่อมารัฐสภามีอำนาจแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ แต่รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรง

และการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องมีการจัดให้มีการออกเสียงประชามติ 3 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 ให้ประชาชนออกเสียงประชามติว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ครั้งที่ 2 ให้ประชาชนออกเสียงประชามติเกี่ยวกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่ามีวิธีการและเนื้อหาที่สำคัญอย่างไร และครั้งที่ 3 ภายหลังรัฐสภาทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว ให้ประชาชน ออกเสียงประชามติว่าเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ โดยการออกเสียงประชามติครั้งที่ 2 และครั้งที่ 2 อาจรวมเป็นครั้งเดียวกันได้

แม้จะมีปัญหาอุปสรรคในขั้นตอนต่าง ๆ เพิ่มขึ้นและยังเป็นปัญหาถกเถียงกันอยู่  แต่พรรคเพื่อไทยในฐานะผู้ริเริ่มและติดตามจำนวนฉบับใหม่มาโดยตลอด ยืนยันที่จะดำเนินการในเรื่องการแสวงหาการจัดทำและฉบับใหม่ให้เป็นประชาธิปไตยต่อไป

เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องเป็นไปตามหมวด 15 การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ดังนั้น จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติในหมวด 15 เป็นอย่างอื่นมิได้ คงทำได้เพียงเพิ่มหมวด 15/1 การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เท่านั้น โดยให้รัฐสภาพิจารณาเป็น 3 วาระ ต้องนำไปทำประชามติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 256(8)

ส่วนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ไม่อาจกระทำโดย สสร.ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนได้นั้น แต่อาจจะทำได้โดยเลือก สสร. โดยทางอ้อม หรือรัฐสภามีมติแต่งตั้ง สสร.หรือคณะกรรมาธิการขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งคณะทำงานของพรรคจะไปไตร่ตรองตัดสินใจในชั้นเสนอญัตติต่อรัฐสภา

สำหรับการทำประชามติ เนื่องจากต้องดำเนินการตามหมวด 15 การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจึงต้องทำประชามติอยู่แล้ว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 256(8) โดยรัฐสภาต้องแจ้งให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ     

ส่วนการทำประชามติครั้งที่ 1 จะเกิดขึ้นเมื่อใด พร้อมกันกับการทำประชามติครั้งที่ 2 ได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องพิจารณา เพราะการทำประชามติจะเกิดขึ้นได้ เมื่อรัฐบาลพิจารณาเห็นสมควร หรือเมื่อรัฐสภาร้องขอตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ เช่นกัน

สำหรับคำถามประชามติครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ควรต้องมีคือ คำถามแรก เห็นชอบว่าสมควรมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ (ครั้งที่ 1)
คำถามที่สอง เห็นชอบกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และสาระสำคัญเกี่ยวกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามรายละเอียดในรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมในหมวด 15 หรือไม่ (ครั้งที่ 2)

พรรคเพื่อไทยจึงขอยืนยันเจตนารมณ์เดิมว่าจะผลักดันและเดินหน้าให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต่อไป เพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยให้มากที่สุด