บรรยากาศการประท้วงคืนที่ 3 ในเนเปาลเริ่มสงบลงแล้ว ท่ามกลางเสียงเชียร์ของกลุ่มผู้ประท้วง "เจน ซี" ที่เสนอให้อดีตประธานศาลสูงสุด เข้ารักษาการนายกรัฐมนตรี
เมื่อคืนที่ผ่านมา (10 ก.ย.) มีเสียงเชียร์ดังขึ้นบริเวณหน้าอาคารศูนย์บัญชาการกองทัพเนปาล ในกรุงกาฐมาณฑุ หลังตัวแทนของกลุ่มผู้ประท้วง "เจน ซี" (Gen Z) ประกาศข้อเสนอให้ ซูชิลา คาร์กี (Sushila Karki) อดีตประธานศาลสูงสุด เข้ามาทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี แทนนายกรัฐมนตรี เคพี ชาร์มา โอลี (KP Sharma Oli) ที่ลาออกจากตำแหน่ง โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อาคารรัฐสภา รวมทั้งอาคารอื่น ๆ ของรัฐบาล ถูกเพลิงไหม้จากการวางเพลิงของกลุ่มผู้ประท้วง สร้างความเสียหายอย่างหนัก และไม่เพียงแต่อาคารของรัฐบาลและบ้านพักรัฐมนตรีที่ได้รับผลกระทบ อาคารของเอกชนอย่างโรงแรมหรู "ฮิลตัน" (Hilton) ในกรุงกาฐมาณฑุ ก็ถูกวางเพลิงจากเหตุจลาจลครั้งนี้ด้วย
ส่วนบรรยากาศตลอดทั้งวานนี้ กองทัพเนปาลได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ทหารออกลาดตระเวนรักษาความปลอดภัย ท่ามกลางท้องถนนที่เงียบสงัด และเศษซากความเสียหายจากการประท้วง ประชาชนส่วนใหญ่ปฏิบัติตามเคอร์ฟิว แต่ควันจากอาคารที่กำลังไฟไหม้ยังคงลอยฟุ้งอยู่ทั่วเมือง ส่วนสนามบินกรุงกาฐมาณฑุ กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งแล้ว ขณะที่ มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 31 คน บาดเจ็บอีกกว่า 1,000 คน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทหารระดมกำลังกันตามล่าตัวนักโทษที่หลบหนีออกจากเรือนจำดิลลีบาซาร์ (Dilli Bazar) ในกรุงกาฐมาณฑุ หลังจากนักโทษอาศัยความชุลมุนจากเหตุจลาจล ก่อเหตุวางเพลิงเรือนจำ โดย เจ้าหน้าที่ ระบุว่า ท่ามกลางความโกลาหล มีนักโทษ 900 คน หลบหนีออกจากเรือนจำ 2 แห่ง
ด้านกลุ่มอาสาสมัคร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น รวมตัวกันที่สำนักงานกรมการขนส่ง เพื่อเก็บกวาดเศษซากเฟอร์นิเจอร์ เศษกระจกที่แตกกระจัดกระจาย และขนขยะขึ้นรถบรรทุก
โดย สำนักข่าวบีบีซี (BBC) รายงานว่า กลุ่มผู้นำการประท้วง "Gen Z" พยายามแยกตัวออกจากการทำลายล้างที่เกิดขึ้น โดยอ้างว่าพวกเขาถูกปล้น (Hijacked) การประท้วงไปจากกลุ่มฉวยโอกาส
ทั้งนี้ แม้ว่าเหตุประท้วงรุนแรงครั้งนี้ถูกจุดชนวนขึ้นจากคำสั่งปิดกั้นโซเชียลมีเดีย แต่เนปาลเผชิญกับความไม่มั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจ มาตั้งแต่การประท้วงที่นำไปสู่การยกเลิกระบอบกษัตริย์ในปี 2551 ประกอบกับคนวัยหนุ่มสาวของเนปาลต้องเจอกับภาวะไม่มีงานทำมาหลายปีแล้ว แรงงานหลายล้านคนต้องออกไปทำงานในตะวันออกกลาง, เกาหลีใต้ และมาเลเซีย โดยส่วนใหญ่อยู่ในไซต์ก่อสร้าง ในขณะที่เหล่านักการเมืองและข้าราชการใช้ชีวิตอย่างหรูหรา