ข่าวภาคค่ำ - ผลการชันสูตรศพ เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ที่ถูกสิงโตทำร้าย อธิบายเหตุผลที่ นายเจียน ไม่หลบหนี หรือร้องขอความช่วยเหลือ ขณะที่ กรมอุทยานแห่งชาติฯ สั่งกักสิงโต 5 ตัว เพื่อปรับพฤติกรรม ไม่ให้คุ้นชินกับการทำร้ายคน ป้องกันโศกนาฏกรรมในอนาคต
โดย "สิงโต" ที่ก่อเหตุเป็นสิงโตหนุ่ม ชื่อว่า "ทรัมป์" ทั้งหมดถูกจับใส่กรงแยกเป็น ตัวเมีย 3 ตัว และตัวผู้ 2 ตัว รวม 5 ตัว เพื่อปรับพฤติกรรม และปิดโซนชั่วคราว ตามคำสั่งของอธิบดีกรมอุทธยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
นอกจากนี้ อธิบดีฯ ยังได้สั่งให้มีการตรวจสอบทุกด้าน ทั้งความแข็งแรงของกรง และมาตรการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ ว่ามีความพร้อมหรือไม่
ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ใช้เวลานานกว่าจะเข้าไปช่วยเหลือผู้เสียชีวิตได้ ถือเป็นบทเรียนที่ต้องปรับปรุง เพราะผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้เป็นนักท่องเที่ยว จะส่งผลกระทบรุนแรงกว่านี้
พร้อมกันนี้ยังได้สั่งการให้ตรวจสอบการครอบครองสัตว์ป่าดุร้ายทั่วประเทศ ต้องถูกเลี้ยงในกรงที่ได้มาตรฐาน หรือทำตามเงื่อนไข ที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ หากฝ่าฝืนจะมีการดำเนินคดีทั้งทางอาญา และแพ่ง รวมถึงอาจยึดสัตว์ไปดูแลต่อที่กรมอุทยานฯ โดยที่ให้ผู้ครอบครองต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ด้าน ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เผยถึงผลการผ่าชันสูตรศพ นายเจียน ว่า ผู้เสียชีวิตมีบาดแผลฉกรรจ์ที่หน้าอก และต้นขา ที่คาดว่าทำให้เสียเลือดมาก จนเสียชีวิต อวัยวะต่าง ๆ ภายในอยู่ครบ แสดงว่าไม่ได้ถูกกินลงไป ส่วนเหตุที่ นายเจียน ไม่สามารถส่งเสียง หรือเคลื่อนไหวได้ เป็นเพราะกระดูกคอหัก
นางสาวรัตนา อายุ 51 ปี น้องสาวคนเล็กของ นายเจียน เปิดเผยว่า ครอบครัวจำเป็นต้องเก็บศพของ นายเจียน ไว้ก่อน 3 ปี เพราะเป็นความเชื่อโบราณของชาวมอญ ไม่เช่นนั้นจะทำให้ครอบครัวได้รับความเดือดร้อน
ขณะที่เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่า ตัวแทนญาติของนายเจียน ได้พูดคุยกับ ตัวแทนจากซาฟารีเวิลด์แล้ว เบื้องต้นจะได้รับเงินเยียวยาจาก กองทุนสวัสดิการของบริษัท 31,500 บาท ก่อน ส่วนการเยียวยาอย่างเป็นทางการ ต้องรอผลการชันสูตรอย่างละเอียด ที่จะทราบผลในอีก 3 วัน เพื่อนำไปหารือถึงแผนการเยียวยาในระยะยาวต่อไป
