ปะทะเดือด สะบ้าย้อย จ.สงขลา

View icon 254
วันที่ 12 ก.ย. 2568 | 06.14 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - มาดูสถานการณ์ความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวาน เจ้าหน้าที่ยิงปะทะกับกลุ่มก่อความไม่สงบ อย่างดุเดือด พื้นที่อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา

เหตุปะทะเดือดเริ่มขึ้นช่วง 05.00 น. กว่าเมื่อวาน (11 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ลาดตระเวนพื้นที่เป้าหมายกลางสวนยางพารา ที่บ้านห้วยเต่า หมู่ที่ 7 ตำบลคูหา อำเภอสะบ้าย้อย หลังจากสายข่าวแจ้งเบาะแสว่า มีสมาชิกกลุ่มก่อความไม่สงบ หลายคน เข้ามาเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่

หนึ่งในกลุ่มก่อความไม่สงบที่ทางการรู้ตัวแน่ชัด ก็คือ นายฮุสนี ยีกาเส็ม เป็นระดับปฏิบัติการ โดยมีหมายจับ ป.วิ อาญา 1 หมาย ส่วนอีกคน นายกอเซ็ง ลาเตะยามา ระดับหัวหน้า มีหมายจับ ป.วิ อาญา มากถึง 7 หมาย นอกจากนี้ยังพาเพื่อนร่วมขบวนการอีกอย่างน้อย 4-5 คน เข้ามาซ่องสุมอยู่ที่เพิงพักในสวนยางพารา พื้นที่บ้านห้วยเต่า หมู่ที่ 7 ตำบลคูหา

เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ลาดตระเวนไปถึงพื้นที่เป้าหมาย พบบุคคลตามที่ได้รับแจ้งเบาะแสจริง จึงแสดงตัวตรวจค้น แต่กลุ่มก่อความไม่สงบ เปิดฉากยิงก่อน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยิงตอบโต้ โดยระหว่างปะทะกันกลุ่มก่อความไม่สงบ ยิงเปิดทางวิ่งหลบหนีขึ้นไป บนเนินเขา เป็นป่าทึบ ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ต้องประสานหน่วยปฏิบัติการพิเศษ และกองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอกำลังสนับสนุน เข้าควบคุมพื้นที่โดยรอบ

รวมทั้งประสานผู้นำท้องถิ่น และผู้นำศาสนา เป็นตัวกลางช่วยเจรจากับกลุ่มก่อความไม่สงบ ให้วางอาวุธ ออกมามอบตัว เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามหลักกฎหมาย แต่การเจรจาตลอดทั้งวัน ไม่เป็นผล กลุ่มดังกล่าวยังยิงใส่เจ้าหน้าที่ เป็นระยะ ๆ กระทั่งถึงช่วงเย็น เมื่อวาน เจ้าหน้าที่ยังคงต้องตรึงกำลังโดยรอบพื้นที่ไว้ ถ้าเจอกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ โดยเฉพาะ นายฮุสนี ยีกาเส็ม และ นายกอเซ็ง ลาเตะยามา จะจับกุมทันที

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่าจากการตรวจสอบสภาพพื้นที่บริเวณเพิงพักที่กลุ่มก่อความไม่สงบไปพักอยู่ พบเสบียงอาหาร อุปกรณ์จำนวนหนึ่ง ที่เชื่อว่าเตรียมใช้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่

เรื่องนี้ พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ควบคุมพื้นที่ และบังคับใช้กฎหมายตามหลักฐานวัตถุพยาน ที่ตรวจพบ ทั้งนี้ยังส่งสารถึงผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วย ไม่ว่าจะเป็นการให้ที่พักพิง สนับสนุนเสบียงอาหาร นำพาซ่อนเร้นอย่างใดอย่างหนึ่ง ถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำหรับอาการบาดเจ็บของกำลังพลที่นั่งรถหุ้มเกราะ REVA เดินทางเข้าไปสนับสนุนเหตุปะทะ แต่ไปไม่ถึง เนื่องจากรถเบรกแตกเสียหลักตกข้างทาง ที่ตำบลนาทวี อำเภอนาทวี เป็นเหตุทหาร 8 นาย บาดเจ็บ ถูกส่งรักษาที่โรงพยาบาลนาทวี โดยข้อมูลอัปเดตช่วงเย็น เมื่อวาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ระบุว่ากำลังพลทุกนาย อาการปลอดภัยแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง