วันนี้ (12 ก.ย. 68) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณ หมู่ที่ 1 บ้านท่ารากหวาย ต.เกาะเทโพ อ.เมือง จ.อุทัยธานี หลังจากที่แม่น้ำเจ้าพระยานั้นมีระดับสูงขึ้นจนเข้าท่วมบ้านเรือนที่อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา โดยพบว่าตอนนี้ ชาวบ้านในพื้นที่พากันยกของขึ้นที่สูงเพื่อป้องกันการเสียหาย
จากการสอบถาม นางโสภา อายุ 57 ปี เปิดเผยว่า น้ำได้เอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่มา 4 วันแล้ว และเพิ่มระดับความสูงขึ้นทุกวัน จนต้องนำนั่งร้านเหล็กมาต่อที่หน้าบ้านแล้วนำเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องครัวมาวางไว้ ซึ่งตอนนี้ยอมรับว่าลำบากมาก เนื่องจากน้ำนั้นท่วมถนนตัดเส้นทางสัญจรในหมู่บ้าน เวลาจะออกไปซื้อของหรืออาหารกักตุนไว้จึงค่อนข้างลำบาก
ขณะเดียวกันบริเวณ หมู่ที่ 6 บ้านวัดราษศรัทธาธรรม ต.ท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกับ บ้านท่ารากหวาย พบว่ามวลน้ำได้เข้าท่วมบ้านเรือนแล้วด้วยเช่นกัน ชาวบ้านหลายหลังคาเรือนต้องนำเรือออกมาใช้สัญจร ได้แต่รอคอยให้น้ำนั้นลดลงอย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ เพราะหากท่วมนานก็จะอยู่กันลำบากอย่างที่เห็น
ทางด้าน นายสำรวย อายุ 70 ปี เปิดเผยว่า เมื่อคืนเวลาประมาณ 01.00 น. แล้ว นั้นเริ่มเข้าท่วมเข้ามาในบ้านจึงทำการทยอยเก็บของตั้งแต่เมื่อคืนจนมาถึงช่วงเช้า ซึ่งชั้นล่างนั้นน้ำท่วมจนหมดแล้ว ต้องยกโต๊ะมาหนุนของไว้ ซึ่งก็ต้องทำอยู่คนเดียวเพราะภรรยานั้นก็ป่วยและต้องเลี้ยงหลานบนชั้นสอง ซึ่งตอนนี้ได้ติดตามข่าวสารอยู่ตลอดเวลา อย่างเช่นวันนี้ก็ทราบว่าทางภาคเหนือนั้นจะระบายน้ำเพิ่มขึ้นก็จะส่งผลให้ระดับน้ำนั้นขึ้นมาอีกอย่างแน่นอนและต้องเฝ้าระวังกันต่อไป
ส่วนถนนที่ถูกตัดขาดเพราะน้ำนั้นเข้าท่วมสูงประมาณกว่า 20 เซนติเมตร ทำให้รถจยย. และรถยนต์นั้นไปผ่านไม่ได้แล้ว ซึ่งก็มีรถอีแต๋นยังคงขับผ่านได้อยู่เนื่องจากรถนั้นค่อนข้างสูง ซึ่งทาง อบต.เกาะเทโพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มาสำรวจในเบื้องต้นแล้ว พบว่า บ้านเรือนทั้งสองหมู่บ้านนั้นน้ำเข้าท่วมกว่า 50 หลังคาเรือนแล้ว
และยังมีสวนกล้วยหอมและไร่ข้าวโพด ซึ่งเป็นอาชีพหลักของชาวตำบลเกาะเทโพ ถูกน้ำท่วมไปกว่า 1,000 ไร่ ซึ่งหากท่วมนานกว่านี้คงจะเน่าตายและเสียหายจนหมดอย่างแน่นอน