“เฉลิมชัย”ลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้เหตุผลเป็นเพราะปัญหาสุขภาพจริงๆ

“เฉลิมชัย”ลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้เหตุผลเป็นเพราะปัญหาสุขภาพจริงๆ

View icon 100
วันที่ 13 ก.ย. 2568 | 12.33 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
พรรคประชาธิปัตย์ แถลงยืนยัน“เฉลิมชัย”ลาออกแล้ว!  เพราะปัญหาสุขภาพจริงๆ  ไม่ใช่ขัดแย้ง“เดชอิศม์”  ส่วนกระแส“อภิสิทธิ์” หวนคืนขึ้นอยู่กับที่ประชุมใหญ่พรรคเสนอชื่อ

วันนี้ (13 ก.ย.68) นางสาวเจนจิรา รัตนเพียร  โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายธนิตพล ไชยนันทน์ ผู้อำนวยการพรรค และนายเมฆินทร์ เอี่ยมสอาด กรรมการบริหารพรรค แถลงข่าวกรณีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง โดยระบุ นายเฉลิมชัย ได้มอบหมายให้ นายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.ประจวบคีรีขันธ์ รองหัวหน้าพรรค ทำหน้าที่รักษาการหัวหน้าพรรคแทน ตามข้อบังคับพรรค ซึ่งนายเฉลิมชัย ให้เหตุผลในการลาออกครั้งนี้ว่า มีปัญหาด้านสุขภาพ และเกรงว่า ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ โดยทางพรรคจะดำเนินการตามระเบียบต่อไป  ที่จะมีการจัดประชุมใหญ่ เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ขึ้นมา ภายใน 60 วัน ซึ่งเชื่อว่า จะมีการเรียกประชุมในเร็ววันนี้ เนื่องจากสำนักเลขาได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า ไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่าง นายเฉลิมชัย กับ กับนายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค เนื่องจากทั้งสองท่านเป็นพี่น้องกัน และเพิ่งไปรับประทานอาหารด้วยกันมา

ด้านผู้อำนวยการพรรคฯ  กล่าวว่า แม้มีการเปลี่ยนหัวเรือใหญ่ในช่วงนี้ พรรคก็จะสามารถเตรียมการเลือกตั้งได้ทัน ยอมรับมีความกังวลว่า สส.พรรคจะไหลออก ซึ่งพรรคก็มีประสบการณ์เรื่องนี้มาไม่ต่ำกว่า 70 ปีแล้ว

นางสาวเจนจิรา กล่าวเสริมถึงสาเหตุที่นายเฉลิมชัยลาออกว่า หัวหน้าพรรคได้เล่าให้ฟังว่า มีปัญหาด้านสุขภาพจริง ๆ และหากใกล้จะเลือกตั้ง ก็อาจจะทำหน้าที่ได้ไม่เต็มความสามารถ จึงตัดสินใจลาออก ก่อนการเลือกตั้ง

ส่วนเลือดเก่า จะกลับมาหรือไม่ ต้องบอกว่า ไม่ว่าจะเป็นเลือดเก่า หรือเลือดใหม่ พรรคประชาธิปัตย์มีคนดี ๆ คนมีความสามารถ ซึ่งถือเป็นเรื่องดี หากมีคนเก่า ๆ มีคนใหม่ เดินเข้ามาที่พรรคมาช่วยกันฟื้นฟู

ขณะที่สมาชิกที่ลาออกจากพรรคไปแล้ว จะกลับเข้ามาเป็นกรรมการบริหารพรรค ต้องมาสมัครเป็นสมาชิกก่อน และตามข้อบังคับ ต้องมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และต้องเป็นสมาชิกพรรคไม่ต่ำกน้อยกว่า 2 ปีติดต่อกัน แต่อย่างไรก็ตาม สามารถใช้มติที่ประชุมยกเว้นขอบังคับพรรคได้ กรณีเป็นสมาชิกไม่ถึง 2 ปี เหมือนกรณีของนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ และนางสาววทันยา บุนนาค หรือ มาดามเดียร์