ชาวปาเลสไตน์กว่า 3 แสนคน หนีจาก “กาซา ซิตี” หลังอิสราเอลยกระดับการโจมตี

ชาวปาเลสไตน์กว่า 3 แสนคน หนีจาก “กาซา ซิตี” หลังอิสราเอลยกระดับการโจมตี

View icon 260
วันที่ 15 ก.ย. 2568 | 16.50 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ชาวปาเลสไตน์หลบหนีจาก “กาซา ซิตี” แล้ว 300,000 คน หลังจากทางอิสราเอลยกระดับโจมตีใน “กาซา ซิตี”

วันนี้ (15 ก.ย. 68) สำนักข่าว “ซินหัว” รายงานว่า สื่ออิสราเอลอ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง เผยว่า มีประชาชนหลบหนีออกจาก “กาซา ซิตี” แล้วประมาณ 300,000 คน หลังจากอิสราเอลประกาศยกระดับการโจมตีใน “กาซา ซิตี” อย่างรุนแรง

โดยกระทรวงสาธารณสุขในฉนวนกาซา รายงานเมื่อวานนี้ (14 ก.ย.) ว่า การโจมตีของอิสราเอลส่วนใหญ่ดำเนินการในพื้นที่ตอนเหนือของฉนวนกาซา ส่งผลให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 68 คน และบาดเจ็บ 346 คน ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยการโจมตีดังกล่าวทำลายอาคารสูงหลายชั้นอย่างน้อย 2 แห่งในเมือง “กาซา ซิตี” หนึ่งในนั้นเป็นอาคารของมหาวิทยาลัยอิสลาม (Islamic University) ที่ใช้เป็นที่พักพิงของผู้พลัดถิ่น

ด้านกองทัพอิสราเอลยืนยันว่าได้โจมตีอาคารสูง 2 แห่ง ด้วยข้ออ้างว่ากลุ่มฮามาสใช้อาคารเหล่านี้รวบรวมข่าวกรองและเฝ้าระวัง ซึ่งอิสราเอลระบุว่ามีแผนยึดครอง “กาซา ซิตี” ซึ่งก่อนการโจมตีเคยมีประชาชนอาศัยและหลบภัยอยู่ราว 1 ล้านคน โดยเป็นส่วนหนึ่งในเป้าหมายที่อิสราเอลประกาศไว้ว่าจะถอนรากถอนโคนกลุ่มฮามาสและปล่อยตัวตัวประกันเกือบ 50 คนที่ถูกกลุ่มฮามาสควบคุมตัวไว้

ทั้งนี้ ทางหน่วยงานสาธารณสุขในกาซา รายงานว่า ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลคร่าชีวิตผู้คนในกาซาแล้วกว่า 64,000 ราย นับตั้งแต่ความขัดแย้งปะทุขึ้นมาเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2566 โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ในกาซาถูกทำลายจนเหลือเพียงซากปรักหักพัง ขณะที่ความอดอยากกำลังแพร่กระจาย