เช้านี้ที่หมอชิต - มาที่เรื่องของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครอบครัว ก็เข้าเยี่ยมที่เรือนจำกลางคลองเปรม เป็นครั้งแรก หนึ่งในนี้น่าจับตา ก็ คุณหญิงอ้อ พจมาน ดามาพงษ์ อดีตภรรยา ที่มาเยี่ยมด้วย หลังเยี่ยมก็บอก ตอนนี้ นายทักษิณ ตัดผมสั้นแล้ว และจะเข้าเยี่ยมอีกครั้งวันพุธนี้ ส่วนประเด็นอื่น ๆ เดี๋ยวไล่เรียงพร้อมกัน
คุณหญิงอ้อ และลูก เยี่ยม ทักษิณ ครั้งแรก
ก็นับเป็นครั้งแรกที่ วานนี้ ปรากฏภาพของ คุณหญิง พจมาน ดามาพงษ์ อดีตภรรยา ของ นายทักษิณ มาพร้อมลูกสาว คือ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง อดีตนายกฯ และ นางสาวพินทองทา คุณากรวงศ์ หรือ เอม เพื่อเข้าเยี่ยม นายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังเรือนจำฯ อนุญาตให้เข้าเยี่ยมได้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาอธิบายขั้นตอนการเยี่ยม จากนั้น จึงเข้าเยี่ยม ก็ใช้เวลาอยู่ราว 30 นาที
คุณโอ๊ค พานทองแท้ ไม่ได้มา มีรายงานว่า ติดธุระ และ นายทักษิณ ก็ถูกคุมตัวมาที่แดนพยาบาลตั้งแต่วันที่ 5 แล้ว โดย นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ บอกสาเหตุการพิจารณาคุมขัง นายทักษิณ ไว้ที่ "แดนพยาบาล" หรือ แดน 10 ของเรือนจำกลางคลองเปรม ว่าเป็นไปตามเงื่อนไข เนื่องจากผู้ที่จะเข้าเกณฑ์คุมขังในแดนนี้ มี 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป และมีโรคประจำตัว และกลุ่มที่ 2 คือผู้ที่มีอาการเจ็บป่วย ซึ่งปัจจุบันมีนักโทษถูกคุมขังที่แดนนี้รวม 119 คน
ทักษิณ กำลังใจดี แม้เครียดบ้าง-ขอบคุณทุกกำลังใจ
ก่อนที่ทั้งหมด จะออกมาแล้วก็เข้าไปทักทาย มวลชนคนเสื้อแดง ที่มาให้กำลังใจ ซึ่งในส่วนของ คุณหญิงอ้อ สื่อฯ ก็พยายามสอบถาม ได้คุยกับ นายทักษิณ ไหม และกำลังใจดีไหม แต่คุณหญิงก็ไม่ตอบอะไร ก่อนจะพยักหน้า แล้วขึ้นรถออกไป จะมีเพียง นางสาวแพทองธาร ที่ให้ข้อมูลว่า คุณพ่อตัดผมสั้นแล้ว โดยเฉพาะคุณแม่ ที่เดิมเคยไม่เจอกันนานถึง 17 ปี ตอนนี้ก็เจอและพูดคุยกันผ่านกระจกเท่านั้น พร้อมเชื่อคุณพ่อ จะทำประโยชน์ได้มากกว่าสอนภาษาเท่านั้น
ทนายยัน ทักษิณ ไม่ VIP-ไม่ขอก้าวล่วงปมคุมขังนอกเรือนจำ
ด้าน ทนาย ก็ยืนยัน นายทักษิณ ไม่ได้มีสิทธิพิเศษ กว่าผู้ต้องขังคนอื่น ๆ และขณะนี้ก็อยู่ในแดนพยาบาล ที่ไว้คุมขังผู้สูงอายุ ซึ่ง นายทักษิณ และครอบครัวก็ไม่ได้ขอสิทธิพิเศษใด ๆ ส่วนการทำเรื่องขอคุมขังนอกเรือนจำ ก็ไม่ขอก้าวล่วงอำนาจของกรมราชทัณฑ์
ที่ ทนายวิญญัติ ทิ้งทายแบบนี้ ก็มาจากข่าวลืออ้างทรัพย์สินของ นายทักษิณ ถูกยึดทรัพย์ที่กัมพูชา ก็เตรียมตัวไว้เลยทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก ซึ่งหลังจากนี้ ครอบครัว ก็จะเข้าเยี่ยมนายทักษิณอีกครั้งในวันพุธนี้ และในสัปดาห์ถัด ๆ ไปก็วางแผนจะมาเยี่ยมทุกวันพุธและศุกร์
สมเด็จฯ ฮุน เซน ป้อง ทักษิณ ยืนยันปมยึดทรัพย์ไม่จริง
จริง ๆ ปมยึดทรัพย์สิน นายทักษิณ ในกัมพูชา ก็มี สมเด็จฮุน เซน โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ยืนยันเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง สมเด็จฮุนเซน ฯ โพสต์ 3 โพสต์ คือ แชร์รูปช่วงทนายฯ ให้สัมฯ บอกว่า ฟ้องแน่ โดย ระบุว่ากระแสข่าวที่ระบุว่ากัมพูชากำลังยึดทรัพย์สินจำนวนมากของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร เป็นข้อมูลไม่เป็นความจริง
สมเด็จฮุน เซน ระบุว่าแม้ตนกับ นายทักษิณ จะมีความขัดแย้งกัน แต่ตนมีหน้าที่รับผิดชอบในการรักษาความบริสุทธิ์ของ นายทักษิณ ไว้ โดยยืนยันว่าทั้ง นายทักษิณ และ คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่มีทรัพย์สินหรือธุรกิจใด ๆ ในกัมพูชา และเมื่อทั้งสองเดินทางมากัมพูชา ก็ใช้รถยนต์ของตนทั้งหมด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทักษิณไม่มีทรัพย์สินใด ๆ ในประเทศ
นอกจากนี้ สมเด็จฮุน เซน ยังชี้แจงเพิ่มเติมว่า ตนและ นายทักษิณ ไม่เคยมีการพูดคุยเรื่องทำธุรกิจเพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจสำหรับบุคคล หรือครอบครัว และเรียกร้องให้ยุติข่าวลือจากกัมพูชาโดยด่วน เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของประเทศชาติ แต่หากข้อมูลดังกล่าวมาจากประเทศไทย ก็ให้ปล่อยให้ทางการไทยเป็นผู้จัดการต่อไป
ณัฐวุฒิ ให้กำลังใจ ทักษิณ และครอบครัว
ด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาอดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมภาพโดยระบุ ว่าเมื่อเห็นภาพ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ และลูก ๆ ไปเยี่ยม คุณทักษิณ แล้วใจสะเทือน พ่ออยู่ข้างใน ทั้งครอบครัวก็เหมือนถูกจองจำ เวลาเข้าเยี่ยมมีจำกัด คงได้คุยกันไม่มาก ก็อยากฝากให้คิด ที่ผ่านมา คุณทักษิณ สู้ผลักดันนโยบาย ทำงานช่วยคนยากคนจนมามาก ถึงวันนี้...ขอให้ท่านและครอบครัวสู้ต่อ สู้ให้สุดใจ สู้ให้สมศักดิ์ศรี ผ่านวันเวลาแบบนี้ไปด้วยความเข้มแข็ง
ทรงศัก ไม่เคยรับรองรักษา ทักษิณ ที่ รพ.ถูกกฎหมาย
ส่วนประเด็นการล่ารายชื่อประชาชน เพื่อถอดถอน นายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่ากระทำผิดจริยธรรมร้ายแรง กรณีคำวินิจฉัยรับรองว่า นายทักษิณ รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่ง นายทรงศัก ก็ยืนยันไม่ได้รับรอง แต่แสวงหาข้อเท็จจริง สอบถามโรงพยาบาลและกรมราชทัณฑ์ ได้คำตอบว่าข้อมูลด้านสุขภาพของผู้ป่วย เป็นความลับ เป็นข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ตรวจการแผ่นดิน ไม่มีอำนาจทางกฎหมายสั่งให้เปิดเผย และไม่ได้รับการชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลด้านสุขภาพของนายทักษิณ โดยการไปชั้น 14 ก็เพื่อดูสภาพ พบว่ามีเจ้าหน้าที่ และ นายทักษิณ นอนอยู่บนเตียงจริง แต่ไม่ได้พูดคุย จึงรายงานไปว่า อยู่ที่โรงพยาบาลจริง