ผลการสอบสวนของคณะกรรมการสหประชาชาติพบว่า อิสราเอลก่อเหตุฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซาจริง โดยมีนายกรัฐมนตรีและผู้นำอีกหลายคนยุยงส่งเสริม
คณะกรรมการสอบสวนสหประชาชาติสรุปบทวิเคราะห์ทางกฎหมาย ความยาว 72 หน้า จากผลการสอบสวนเรื่องปฏิบัติการของอิสราเอลในการโจมตีฉนวนกาซาแล้ว โดยระบุว่า อิสราเอลก่อเหตุฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซาจริง อาทิ การสังหารผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์, การปิดกั้นความช่วยเหลือ, การบังคับอพยพ และการทำลายคลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอล ได้แก่ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู รวมถึงประธานาธิบดีไอแซก เฮอร์ซอก และโยอัฟ กัลลันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ยุยงให้เกิดการกระทำเหล่านี้ ซึ่งคำแถลงของเบนจามิน เนทันยาฮู และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่น ๆ เป็นหลักฐานโดยตรงของเจตนาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
สงครามที่เกิดขึ้นในฉนวนกาซาได้คร่าชีวิตผู้คนแล้วกว่า 64,000 คน ส่วนหนึ่งเกิดจากความอดอยากขณะที่อิสราเอลอ้างในการสู้คดีที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ว่า เป็นสิทธิในการป้องกันตนเอง หลังจากกลุ่มฮามาสบุกสังหารหมู่และจับตัวประกันในอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566
ทั้งนี้ ตามอนุสัญญาว่าด้วยการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แห่งสหประชาชาติ พ.ศ.2491 ซึ่งได้รับการรับรองหลังการสังหารหมู่ชาวยิวโดยกองทัพนาซีเยอรมนี ได้นิยามการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ว่า เป็นอาชญากรรมที่กระทำ "โดยมีเจตนาทำลายล้าง ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ต่อกลุ่มชาติพันธุ์ เชื้อชาติ หรือศาสนาใดกลุ่มหนึ่ง
