ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยืนยันว่า สหรัฐฯ มีผู้ซื้อ TikTok แล้ว หลังจากสหรัฐฯ กับ จีน บรรลุข้อตกลงที่จะทำให้ TikTok สามารถให้บริการในสหรัฐฯ ต่อไปได้ โดยไม่โดนแบน
วันนี้ (17 ก.ย. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) ว่าสหรัฐฯ และจีนมีข้อตกลงที่จะทำให้แอปพลิเคชัน “TikTok” ยังคงสามารถดำเนินการในสหรัฐฯ ได้ต่อไป ด้วยการขายกิจการจาก “ไบต์แดนซ์” (ByteDance) ของจีน ไปให้เจ้าของใหม่ในสหรัฐฯ
โดย TikTok เป็นแอปฯ ยอดนิยมที่มีผู้ใช้ในสหรัฐฯ สูงถึง 170 ล้านคน และข้อตกลงนี้ถือเป็นก้าวครั้งสำคัญในการเจรจาที่กินเวลามานานหลายเดือนระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งพยายามจะคลี่คลายสงครามการค้าที่ยืดเยื้อและผลกระทบต่อตลาดโลก
โดย “โดนัลด์ ทรัมป์” ระบุว่า “เรามีข้อตกลงเรื่อง TikTok แล้ว เรามีกลุ่มบริษัทใหญ่ ๆ มากมายที่ต้องการจะซื้อ TikTok” แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งข้อตกลงต่าง ๆ ต้องได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรสที่ควบคุมโดยพรรครีพับลิกัน
ด้านคณะผู้แทนการค้าจีนระบุว่า การบรรลุฉันทามติร่วมกันครั้งนี้เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันและเพื่อความสัมพันธ์ทางการค้าของทั้ง 2 ประเทศ
หลังจากนี้ จะมีการยืนยันในการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน อีกครั้งในวันศุกร์ (19 ก.ย.) นี้ และขยายเส้นตายการระงับการให้บริการ TikTok ในสหรัฐฯ จากวันที่ 17 กันยายนนี้ ไปอีก 90 วัน เพื่อให้เวลาเจรจาทำข้อตกลงให้แล้วเสร็จ
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ข้อตกลงเรื่องการโอนการควบคุมให้บริการ TikTok ในสหรัฐฯ ล้มเหลวในขั้นตอนสุดท้าย เพราะทางฝ่ายจีนปฏิเสธ ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ กำหนดเส้นตายการระงับการให้บริการในสหรัฐฯ เนื่องจากสมัยประธานาธิบดี โจ ไบเดน รัฐบาลสหรัฐฯ กังวลว่า ข้อมูลผู้ใช้ TikTok ในสหรัฐฯ อาจถูกรัฐบาลจีนเข้าถึงได้