ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เดินทางเยือน “อังกฤษ” อย่างเป็นทางการครั้งที่ 2 โดยมีชาวอังกฤษที่ไม่พอใจต่อท่าทีของสหรัฐฯ รวมตัวกันประท้วงหน้าพระราชวังวินด์เซอร์ จำนวนมาก
วันนี้ (17 ก.ย. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และนางเมลาเนีย ทรัมป์ สตรีหมายเลขหนึ่ง เดินทางถึงกรุงลอนดอน เมืองหลวงของประเทศอังกฤษ ช่วงค่ำวานนี้ (16 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นการเยือนครั้งประวัติศาสตร์ เนื่องจากไม่เคยมีประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใด เดินทางเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการถึง 2 ครั้ง
โดยมีผู้ประท้วงรวมตัวเดินขบวนประท้วงการเดินทางมาเยือนอังกฤษของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ทั้งที่บริเวณถนนใจกลางเมืองวินด์เซอร์ และบริเวณด้านหน้าพระราชวังวินด์เซอร์ เพื่อแสดงความไม่พอใจในท่าทีของสหรัฐฯ ต่ออิสราเอลและรัสเซีย รวมทั้งนโยบายอำนาจนิยมของผู้นำสหรัฐฯ
ขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงบริเวณพระราชวังวินด์เซอร์ ได้มีการฉายภาพ ประธานาธิบดีทรัมป์, เจ้าชายแอนดรูว์ และ เจฟฟรีย์ เอปสตีน โดยใช้ปราสาทเป็นฉาก ซึ่งทั้งคู่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในลูกค้าที่ เอปสตีน จัดหาหญิงบริการให้ ก่อนตำรวจจะเข้าระงับและจับกุมผู้ประท้วงฐานสร้างความวุ่นวาย 4 คน
ในวันนี้ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จะทรงจัดเลี้ยงต้อนรับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่พระราชวังวินด์เซอร์ และมีสมาชิกราชวงศ์อังกฤษร่วมให้การต้อนรับ ซึ่งจะเป็นไปด้วยความยิ่งใหญ่ แม้จะเป็นพระราชพิธีต้อนรับแบบปิด ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย แต่ยังมีการจัดชบวนรถม้า พิธีสวนสนาม และยิงปืนสลุต ซึ่งถือเป็นการให้เกียรติระดับสูงสุด
นอกจากนี้ “โดนัลด์ ทรัมป์” มีกำหนดเจรจากับ “เคียร์ สตาร์เมอร์” นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เรื่องการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศ มูลค่า 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 320,000 ล้านบาท ก่อนเดินทางกลับสหรัฐฯ ในวันพรุ่งนี้