จ.สระแก้ว ออกแถลงการณ์ หลังผู้ว่าฯ 2 ประเทศ พูดคุยกัน และไทยประท้วงเขมรละเมิดข้อตกลง กรณีรื้อรั้วลวดหนามบ้านหนองหญ้าแก้ว

จ.สระแก้ว ออกแถลงการณ์ หลังผู้ว่าฯ 2 ประเทศ พูดคุยกัน และไทยประท้วงเขมรละเมิดข้อตกลง กรณีรื้อรั้วลวดหนามบ้านหนองหญ้าแก้ว

View icon 229
วันที่ 17 ก.ย. 2568 | 17.04 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
แถลงการณ์ หลังผู้ว่าฯ 2 ประเทศพูดคุยกัน และยื่นหนังสือประท้วงเขมรละเมิดข้อตกลง กรณีรื้อรั้วลวดหนามพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง ด้านตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน (คฝ.) เตรียมความพร้อมในที่ตั้ง 

17 กันยายน 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จ.สระแก้ว ออกแถลงการณ์จังหวัดสระแก้ว ภายหลัง เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว อัยการจังหวัดสระแก้ว พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัด และผู้แทนกรมเอเชียตะวันออก ผู้แทนกรมกิจการชายแดนทหาร ผู้แทนกรมแผนที่ทหารและผู้แทนกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ ได้ประชุมร่วมกับ นายอุม เรียโตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย พร้อมคณะ ที่ห้องประชุมด่านตรวจคนเข้าเมืองจุดผ่านแดนถาวรปอยเปต อำเภอโอวโจรว จังหวัดบันเตียนเมียนเจย ราชอาณาจักรกัมพูชา ทั้งนี้ โดยสรุปสาระสำคัญดังนี้

ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้เสนอข้อเสนอของจังหวัดสระแก้ว เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย เฉพาะกรณีบ้านหนองจาน ตามผลการประชุมคณะกรรมการขายแดนทั่วทั่วไป (General Border Committee : GBC ไทย - กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 ณ จังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา จำนวน 8 ข้อ ได้แก่

ข้อ 1 ทั้งสองฝ่าย เห็นชอบร่วมกันที่จะบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนให้เป็นไปด้วยความสงบเรียกเร้อยโดยกำหนดให้มวลชนของทั้งสองประเทศ ถอยห่างออกจากพื้นที่อ้างสิทธิ์ของประเทศ ตรงข้ามไม่น้อยกว่า 500 เมตร
ข้อ 2 ทั้งสองฝ่าย จะไม่มีการปลุกระดมมวลชน พร้อมทั้งควบคุมมวลชนของประเทศตนให้อยู่ห่างจาก พื้นที่อ้างสิทธิ์ของประเทศตรงข้าม ไม่น้อยกว่า 500 เมตร ,
ข้อ 3 ทั้งสองฝ่าย เห็นชอบร่วมกัน ไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะภูมิประเทศในพื้นที่อ้างสิทธิ์ของทั้งสองประเทศในทุกกรณี ในกรณีที่มีการดำเนินการไปแล้ว ให้ปรับคืนสู่สภาพเดิมภายใน 1 วัน หลังการประชุม
ข้อ 4 ทั้งสองฝ่าย เห็นชอบร่วมกัน ที่จะไม่มีการเพิ่มกำลังทหารและอาวุธหนักในพื้นที่ชายแดนทั้งสองจังหวัด
ข้อ 5 จังหวัดสระแก้ว ขอสงวนสิทธิ์ในการออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดินทำกินของคนไทย ในเขตอธิปโตยของประเทศไทย ซึ่งอยู่นอกเขตพื้นที่อ้างสิทธิ์ของทั้งสองประเทศ
ข้อ 6 ประชาชนของทั้งสองประเทศ สามารถเข้าทำประโยชน์ในที่ดินในเขตอธิบไตยของตนนอกพื้นที่อ้างสิทธิ์ได้ โดยห้ามประชาชน ทหาร หรือเจ้าหน้าที่รัฐเข้าทำการขัดขวางการทำประโยชน์ดังกล่าว ทั้งนี้ หากเกิดความไม่สงบเรียบร้อยในพื้นที่ของประเทศใด ให้เป็นหน้าที่ของประเทศนั้น ต้องดำเนินการแการแก้ไขให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยโดยเร็ว
ข้อ 7 หากไทยและกัมพูชาไม่สามารถหาข้อตกลงได้ภายใต้กลไกการหารือของคณะกรรมการขายแดนทั่วไป (General Border Committtee : GBC)ไทย - กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งต่อไป จังหวัดสระแก้วจะมีหนังสือแจ้งจังหวัดบันเตียนเมียนเจย ให้ราษฎรที่อยู่นอกเส้นอ้างสิทธิ์ที่รุกล้ำเข้ามาในอธิปไดยไทย ให้ย้ายออกจากพื้นที่พร้อมทรัพย์สิน และสังหาริมทรัพย์บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้วภายใน 30 วัน นับแต่วันที่จังหวัดสระแก้วมีหนังสือแจ้ง หากไม่ออกจากพื้นที่ดังกล่าว จังหวัดสระแก้ว จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายของราชอาณาจักรไทยต่อไป ตามที่ได้แจ้งให้ทราบแล้ว
ข้อ 8 ทั้งสองฝ่าย เห็นชอบร่วมกันที่จะจัดตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาระดับพื้นที่ร่วมกัน ระหว่างสองประเทศ เพื่อมีเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาทุกประเด็นด้วยสันติวิธี และหลีกเลี่ยงการปะทะ

ทั้งนี้ หากจังหวัดบันเตียนเมียนเจย ไม่รับข้อเสนอข้อใดข้อหนึ่ง จังหวัดสระแก้ว ยังคงสงวนและจะดำเนินการต่อไป ในเขตอธิปไตยและราชอาณาจักรไทย พร้อมนำผลการหารือในวันนี้ (17 ก.ย.68) เสนอในที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Fegional Border Committee : RBC)ไทย - กัมพูชา ครั้งต่อไป และจังหวัดสระแก้ว จะได้มีหนังสือแจ้งข้อเสนอดังกล่าวให้จังหวัดบันเตียนเมียนเจย เพื่อพิจารณาพร้อมแจ้งผลการพิจารณาให้จังหวัดสระแก้วทราบ ภายในวันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน 2568

ขณะเดียวกัน  ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียนเมียนเจย รับทราบข้อเสนอของจังหวัดสระแก้ว และจะนำไปพิจารณา พร้อมแจ้งผลการพิจารณาให้จังหวัดสระแก้ว ทราบ รวมทั้งจะมีหนังสือแจ้งข้อเสนอของจังหวัดบันเตียนเมียนเจย ในเรื่องดังกล่าว ให้จังหวัดสระแก้ว เพื่อพิจารณาต่อไป

ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อนึ่ง จังหวัดสระแก้วได้ส่งข้อเสนอของจังหวัดสระแก้ว เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยเฉพาะกรณีบ้านหนองจาน จำนวน 8 ข้อ ให้กับคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (Intenm Obsenver Team : IOT) ที่ลงพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ในวันนี้ รับทราบด้วยแล้ว

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน (คฝ.) กว่า 100 นาย โดยเตรียมความพร้อมในที่ตั้ง พร้อมอุปกรณ์ครบมือ เพื่อให้สามารถลงพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วและบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ได้ทันทีที่เกิดเหตุการณ์ยั่วยุหรือกระทำความผิดในผืนแผ่นดินไทย หลังจากนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง