ตำรวจประชุมคดีพระ คืบหน้าหลายคดี

สนามข่าว 7 สี - วานนี้ตำรวจสอบสวนกลาง เรียกหลายหน่วยงานมาประชุมความคดีวัด 3 วัด ตั้งธงสอบการใช้เงินวัดผิดวัตถุประสงค์

เริ่มจากปมร้อน วัดนาป่าพง จังหวัดปทุมธานี ตำรวจตั้งธงตรวจสอบเงินบริจาคของวัด ว่านำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ โดยเส้นเงินที่ตำรวจตรวจสอบไม่เกี่ยวข้องกับเงิน 12.2 ล้านบาท ที่ สีกาพลอย ส่งทนายความ มาฟ้องร้องเอาผิด ในข้อหายักยอกทรัพย์ และฟอกเงิน แต่เป็นการตรวจสอบเส้นเงินวัด ย้อนหลัง 5 ปี พบเงินหมุนเวียนจำนวนมาก แต่ยังไม่ขอลงรายละเอียด

ด้านทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายกระดูกเหล็ก โพสต์ภาพข้อความโต้ หลังจากทีมทนายความวัดนาป่าพง  ตั้งโต๊ะชี้แจงเส้นเงินเมื่อวานนี้ว่า ไม่ได้เป็นการฟอกเงิน

ทนายอนันต์ชัย ระบุว่า การที่วัดนำเงินของวัดนาป่าพง ซึ่งเป็นเงินบริจาค จำนวน 12,2,00,000 บาท บริจาคให้นางกัญญาภัค เป็นการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์

ต่อมาโอนให้พระ แล้วพระโอนให้สมาคม หรือมูลนิธิต่างประเทศ เพราะเป็นนิติบุคคลต่างประเทศแยกต่างหากจากวัด กฎหมายไทยไม่มีผลบังคับในไทย ไม่สามารถตรวจสอบได้ และยิ่งมีการโอนเงินให้พระ หรือสมาคม หรือมูลนิธิที่พระนั้นมีอำนาจเบิกจ่ายด้วยตนเอง เข้าข่ายการฟอกเงิน การกระทำดังกล่าว อาจเข้าข่ายการกระทำความความผิดเจ้าพนักงานเบียดบังยักยอกทรัพย์ ตาม ปอ. มาตรา 147,157 และความผิดฐานฟอกเงินฯ

ข้อความทนายฉบับเต็ม ระบุว่า เปิดหลักฐาน ข้อเท็จจริงข้อกฎหมาย เกี่ยวกับเงินบริจาควัดดังเมืองปทุม เปิดหลักฐานการโอนเงินพระวัดดังในจังหวัดปทุมธานี โอนเงินให้กัญญาภัค ชไนเดอร์ ที่ประเทศเยอรมัน ที่ธนาคารกรุงไทย จำนวน 4 ครั้ง

ครั้งที่ 1 จำนวน  6,000,000 บาท อ้างว่าเป็นเงินพี่สาวที่บริจาค แต่ภายหลังอ้างว่าเป็นเงินวัดนาป่าพง โอนโดยนายสมภพ
ครั้งที่ 2 จำนวน  2,700,000 บาท เป็นเงินบริจาคจากวัดนาป่าพง ให้นางกัญญาภัค โอนโดยนายศรชา
ครั้งที่ 3 จำนวน  2,000,000 บาท เป็นเงินบริจาคจากวัดนาป่าพง ให้นางกัญญาภัค โอนโดยนายศรชา
ครั้งที่ 4 จำนวน  1,500,000 บาท เป็นเงินบริจาคจากวัดนาป่าพง โอนโดยนายศรชา

รวมเป็นเงิน 12,200,000 บาท

ตาม พรบ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505ฯ มาตรา 45 เจ้าอาวาสเป็นเจ้าพนักงาน ความผิดเกี่ยวกับเจ้าพนักงานใน ปอ.อาญา ทั้งหมด ใช้กับเจ้าอาวาสด้วย

เกี่ยวกับเงินบริจาค ถือเป็นเงินของวัด ต้องนำเข้าบัญชีวัด ผู้มีอำนาจเบิกจ่าย คือ เจ้าอาวาสและไวยาวัจกร ฯ ต้องทำบัญชีส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี ทุกปี การเบิกจ่ายก็ต้องไวยาวัจกร เจ้าอาวาสและบุคคลที่เจ้าอาวาสเห็นสมควรในการเบิกจ่าย และต้องทำบัญชีรับจ่ายให้ถูกต้อง และการดูแลรักษาและจัดการเงินกุศลที่มีผู้บริจาคให้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค ตามกฎกระทรวง (ฉบับที่ 2) 2511 ฯ ข้อ 5,6 หรือปัจจุบัน ตามกฎกระทรวงการดูแลรักษาและจัดการศาสนสมบัติของวัด พ.ศ. 2564 ข้อ 7, 8

เพราะฉะนั้น การเบิกเงินจากวัดต้องใช้เพื่อวัตถุประสงค์ หรือกิจการของวัด วัดไม่มีสิทธิ์นำเงินวัดไปบริจาคให้บุคคลอื่น การที่วัดนำเงินของวัดนาป่าพง ซึ่งเป็นเงินบริจาค จำนวน 12,2,00,000 บาท บริจาคให้นางกัญญาภัค #เป็นการผิดวัตถุประสงค์ ต่อมาโอนให้พระ

บิ๊กเต่า เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม ทิดอลงกต
ต่อมาคือวัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี  ล่าสุด พนักงานสอบสวนเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาอดีตพระอลงกตเพิ่มอีกหลายกรรม โดยเฉพาะเรื่องการนำเงินวัดไปซื้อทรัพย์สินต่าง ๆ เช่นที่ดิน ส่วนหมายจับล็อตที่ 2 ตำรวจอยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่มเติม แต่ใบ้ให้ว่าเป็นบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับทางวัด

วัดโสธรฯ พบเงินหมุนเวียนกว่า 8,000 ล้านบาท
สุดท้าย คือ วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา หลัง สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดฯ นำหลักฐานที่ตรวจสอบ เข้าพูดคุยกับตำรวจ เนื่องจากพบว่าเคยถูกชาวบ้านร้องเรียนเข้ามา จึงควรลงไปตรวจสอบเชิงรุก เพื่อให้เกิดความโปร่งใส เกี่ยวกับเงินบริจาคมากกว่า 8,000 ล้านบาท

มีรายงานว่า เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ มีเรื่องพัวพันกับสีกา ซึ่งไม่ใช่ สีกากอล์ฟ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ