“มาลี โสเจียตา” แถลงประณามไทยใช้กำลังกับมวลชนเขมร อ้างพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนกัมพูชา

“มาลี โสเจียตา” แถลงประณามไทยใช้กำลังกับมวลชนเขมร อ้างพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนกัมพูชา

View icon 403
วันที่ 18 ก.ย. 2568 | 09.29 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
“มาลี โสเจียตา” ประณามเจ้าหน้าที่ไทยใช้กำลังกับมวลชนกัมพูชา อ้างพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนกัมพูชา การกระทำของฝ่ายไทยถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา ข้อตกลงหยุดยิง และกฎหมายระหว่างประเทศ

วันนี้ (18 ก.ย. 68) สำนักข่าว ขแมร์ ไทม์ส ของกัมพูชา รายงานว่า พล.ท.หญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา แถลงว่าจากเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างทหารไทยกับเจ้าหน้าที่และพลเรือนชาวกัมพูชาที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว ประเทศไทย (ซึ่งกัมพูชาอ้างว่าเป็นพื้นที่ของกัมพูชา) เมื่อวานนี้ (17 ก.ย. 68) มีชาวกัมพูชา 28 คน ซึ่งรวมถึงพลเรือนและพระสงฆ์ ได้รับบาดเจ็บทั้งเล็กน้อยและสาหัส ซึ่งความรุนแรงเกิดขึ้นเพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่คณะผู้สังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT) ได้เดินทางออกจากพื้นที่หลังตรวจสอบ หลังจากนั้นในช่วงเย็น วานนี้ เวลา 19.22 น. คณะ IOT ได้กลับมาตรวจสอบพื้นที่หลังการปะทะกัน

ทางกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวของฝ่ายไทยเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป กัมพูชา-ไทย (GBC) และคณะกรรมการชายแดนระดับภูมิภาค (RBC) และประเทศไทยบังคับใช้กฎอัยการศึกและกฎหมายภายในประเทศภายในดินแดนกัมพูชา ซึ่งถือเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาและกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติ กฎบัตรอาเซียน และสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นอกจากนี้ กัมพูชาขอย้ำว่า การกระทำของพลเรือนชาวกัมพูชานั้นมาจากความกังวลเรื่องที่ฝ่ายไทยกั้นรั้วกั้นดินแดนกัมพูชา และพวกเขาต้องการที่จะปกป้องดินแดนที่พวกเขาครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายมาเป็นเวลาหลายปี ทั้งนี้กัมพูชาขอย้ำว่ากองกำลังกัมพูชาและหน่วยงานท้องถิ่นที่ประจำการอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ไม่มีอาวุธและปฏิบัติงานด้วยความเป็นมืออาชีพ ยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดและให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาโดยสันติ

ทั้งนี้ กัมพูชาขอเรียกร้องให้ไทยเคารพเจตนารมณ์ของการข้อตกลงหยุดยิงและคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ในการประชุม GBC ที่ระบุว่าทั้งสองฝ่ายต้องหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่จะทำให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้นหรือขยายพื้นที่พิพาท
และขอย้ำว่าปัญหาชายแดนที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งอยู่นอกเหนือเขตอำนาจของกองกำลังท้องถิ่น ควรได้รับการแก้ไขผ่านคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ภายใต้กรอบ MOU43 ว่าด้วยการกำหนดเขตแดนทางบก และแม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง แต่กระทรวงกลาโหมของกัมพูชายังคงยืนยันถึงความมุ่งมั่นของกัมพูชาในการทำงานร่วมกับไทยในทุกระดับเพื่อรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา เพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ