ยังไม่น่าไว้วางใจคุมเข้มชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว

ยังไม่น่าไว้วางใจคุมเข้มชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว

View icon 82
วันที่ 18 ก.ย. 2568 | 11.15 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ จัดกำลังคุมเข้มชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว ตั้งจุดตรวจปิดกั้นถนน พร้อมเสริมกำลังชุดควบคุมฝูงชน พร้อมโล่ป้องกันตัว

บรรยากาศเช้าวันนี้ ( 18 ก.ย.68 ) ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว จะยังไม่มีการกระทบกระทั่งกัน เหมือนเมื่อวานนี้ ( 17 ก.ย.68 ) แต่ว่าสถานการณ์ก็ยังไม่น่าไว้วางใจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทย มีการตั้งด่านตรวจ ทั้งตำรวจ และชรป. ที่หน้าทางบ้านหนองหญ้าแก้ว ส่วนที่ถนนศรีเพ็ญ ที่จุดตรวจ 33 ซึ่งห่างจากจุดที่มีเหตุการณ์เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นถนน ไม่ให้ชาวบ้านขับรถผ่านเด็ดขาด

ขณะที่พื้นที่ทางเข้าบ้านหนองหญ้าแก้ว มีรถของทหาร รวมถึงรถฉีดน้ำ ขับผ่านเข้าเสริมสลับกำลังกันต่อเนื่อง นอกจากนี้ในช่วงสายที่ผ่านมา มีการเสริมกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนจากตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี จำนวน 3 หมวด พร้อมโล่ป้องกันตัว และอาวุธยุทธวิธีการปราบจลาจล เดินทางเข้ามาสมทบ เสริมกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนภูธรจังหวัดสระแก้ว เข้าไปในพื้นที่แนวหน้าบ้าน หนองหญ้าแก้ว เพิ่มอีก 170 นาย

ส่วนบรรยากาศที่บ้านหนองหญ้าแก้ว เป็นไปด้วยความเงียบเหงา ชาวบ้านยังใช้ชีวิตตามปกติ  แม้จะรู้สึกเป็นกังวลใจ บางคนถึงกับนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน หลังเกิดเหตุปะทะกันในพื้นที่ ซึ่งยอมรับว่าบ้านของตนเองอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ ทำให้ต้องติดตามข่าวสารทั้งจากผู้นำชุมชน และหน่วยงานรัฐตลอด 24 ชั่วโมง แต่อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านในพื้นที่เองมีความพร้อมที่จะอพยพออกไปจากพื้นที่ทันทีหากหน่วยงานมีการแจ้งให้ออกไป

ส่วนที่โรงเรียนบ้านหนองเสม็ด ซึ่งอยู่ทางเข้าบ้านหนองหญ้าแก้ว 1.5 กิโลเมตร ทีมข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พูดคุย กับนายอดุล ตีสถิตย์ รักษาการ ผอ.รร.บ้านหนองเสม็ด ระบุว่า วันนี้โรงเรียนยังเปิดเรียนปกติ โดยบอกว่า มีการเตรียมความพร้อม รองรับสถานการณ์ฉุกเฉินไว้แล้ว หากมีเหตุความรุนแรง สามารถสั่งหยุดเรียน และอพยพเด็กนักเรียนออกไปในที่ปลอดภัยได้ทันที ซึ่งตอนนี้ก็ต้องมีการประเมินวันต่อวัน ขณะที่นักเรียน ยอมรับว่าตกใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไปฟังเสียงครูและนักเรียน

ซึ่งเหตุการณ์เมื่อวานนี้ ฝ่ายความมั่นคงยืนยันว่า พื้นที่ที่เกิดเหตุ อยู่ในเขตอธิปไตยไทยชัดเจน อีกทั้งไม่ได้อยู่ในเขตพื้นที่ที่กัมพูชาอ้างสิทธิ์ หรืออยู่ในเขตพื้นที่ของกัมพูชา อย่างที่ทางฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือนข้อมูล เชื่อว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายของประเทศไทยชัดเจน ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันจะใช้มาตรการในการกดดันชาวกัมพูชาจากเบาไปหาหนัก โดยจะยึดหลักการปฏิบัติการตามหลักสากล