ดีเอสไอยึดไม้ประดู่ 14 ล้าน ทุนต่างชาติจ้างตัด

ดีเอสไอยึดไม้ประดู่ 14 ล้าน ทุนต่างชาติจ้างตัด

View icon 115
วันที่ 18 ก.ย. 2568 | 16.31 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ปลายทางส่งไปจีน-เวียดนาม ทุนต่างชาติจ้างตัด ขนออกจากป่าในภาคเหนือ มาพักคอยที่ภาคอีสาน ดีเอสไอ-กรมอุทยานฯ บุกค้นยึดไม้ประดู่ 14 ล้าน 
                      
วันนี้ (18 ก.ย.68) นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นำโดย นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เปิดเผยผลปฏิบัติการตรวจสอบโกดังของบริษัทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.วัดธาตุ อ.เมืองหนองคาย

ผลการเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบไม้ประดู่ที่ถูกลักลอบตัดจากป่าอนุรักษ์และป่าสงวนฯ 378 ท่อน/แผ่น/ปุ่ม รวมปริมาตร 32.547 ลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นน้ำหนักประมาณ 28,000 กิโลกรัม หากประเมินตามราคาตลาด ไม้ของกลางที่ยึดได้มีมูลค่าสูงถึง 14 ล้านบาท

สำหรับคดีนี้ สภ.เมืองหนองคาย ตำรวจตระเวนชายแดน กรมศุลกากร และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันติดตามขยายผลการจับกุมขบวนการลักลอบทำไม้ประดู่ในพื้นที่ภาคเหนือ จากพยานหลักฐานต่าง ๆ พบว่าขบวนการนี้มีนายทุนจากต่างประเทศเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง สนับสนุนเงินทุนกับกลุ่มทำไม้ในพื้นที่ภาคเหนือ และจ้างวานชาวบ้านในพื้นที่เข้าไปทำไม้ประดู่ที่พื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ โดยมีเจ้าหน้าที่ภาครัฐหน่วยงานต่าง ๆ อำนวยความสะดวก

จากการส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวติดตามความเคลื่อนไหวพบว่ามีการนำไม้ออกมาจากพื้นที่ป่า โดยใช้รถยนต์กระบะมายังโกดังท้องที่ทางภาคเหนือเพื่อรวบรวม ก่อนจะลำเลียงมาเก็บที่โกดังทางภาคอีสานโดยรถบรรทุกสิบล้อและจะมีพ่อค้าไม้เข้ามาเลือกซื้อไม้ในโกดังหนองคายแล้วขนส่งต่อไปยัง สปป. ลาว นอกจากนี้ ยังพบการขนส่งโดยใช้รถตู้คอนเทนเนอร์ออกทางช่องทางท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี
                 
ผลการตรวจสอบเอกสารพบว่าบริษัทที่เกี่ยวข้องกับโกดังนี้ส่งไม้ออกทางเรือโดยแสดงรายการส่งออกสำแดงเป็นไม้ประดู่มีประเทศปลายทางเป็นจีน และประเทศเวียดนาม โดยคาดว่าจะส่งไม้ประดู่แปรรูปไปยังประเทศจีน ซึ่งไม้ที่ส่งออกในช่วงปี พ.ศ. 2566 - 2568 มีปริมาตรทั้งหมด 2,052.83 ลูกบาศก์เมตร ปริมาณ 2,467,972 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่าความเสียหายของรัฐเป็นเงินกว่า 143 ล้านบาท และจากราคาตลาดซึ่งมีการซื้อขายไม้ประดู่ในปัจจุบัน พบว่าอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 300 - 500 บาทขึ้นอยู่กับขนาดและความสมบูรณ์ของเนื้อไม้ หากคิดเป็นค่าเสียหายตามราคาท้องตลาดจะอยู่ที่ประมาณ 1,233 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่ทรัพยากรป่าไม้ของประเทศไทยได้เสียหายไป โดยทั้งนี้จะมีการขยายผลไปยังบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกระดับต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง