จำคุก 6 ปี อดีตนายก อบต.บางแก้ว ฮั้วจัดซื้อรถดับเพลิงกระเช้า 40 ล้านบาท ส่วนกลุ่มเอกชน เจอคุก 4 ปี

จำคุก 6 ปี อดีตนายก อบต.บางแก้ว ฮั้วจัดซื้อรถดับเพลิงกระเช้า 40 ล้านบาท ส่วนกลุ่มเอกชน เจอคุก 4 ปี

View icon 716
วันที่ 18 ก.ย. 2568 | 17.53 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (18 ก.ย.68) ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ได้อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อท.129/2567 คดีหมายเลขแดงที่ อท.108/2568 ระหว่าง อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ฟ้อง นายภัทรพล จำเลยที่ 1 กับพวกรวม 5 คน เป็นจำเลย ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่ง หรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่ง หรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐโดยทุจริตกำหนดเงื่อนไขอันเป็นมาตรฐานในการเสนอราคา โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคาให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ

คดีดังกล่าวเป็นคดีเกี่ยวกับการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ซึ่งประชาชนให้ความสนใจ โดยขณะเกิดเหตุคดีนี้จำเลยที่ 1 ดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบด้วยกฎหมายและโดยทุจริต ในการดำเนินโครงการจัดซื้อรถยนต์ดับเพลิงกู้ภัยแบบกระเช้าหอน้ำพร้อมบันได จำนวน 1 คัน วงเงินงบประมาณ 40,000,000 บาท โดยกระทำการกำหนดคุณลักษณะรถยนต์ดับเพลิงฯ ที่จะจัดซื้อ นำรายละเอียดผลิตภัณฑ์และคุณลักษณะของบริษัทเอกชนรายหนึ่งมากำหนด เพื่อเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทรายดังกล่าวให้มีสิทธิเข้าทำสัญญากับองค์การบริหารส่วนตำบลบางแก้ว โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหาย อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11 และมาตรา 12 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 192

ศาลพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เดิม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11 และมาตรา 12 ความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐโดยทุจริตกำหนดเงื่อนไขอันเป็นมาตรฐานในการเสนอราคา โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคาให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ

เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐโดยทุจริตกำหนดเงื่อนไขอันเป็นมาตรฐานในการเสนอราคาโดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคาให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11 มาตรา 12 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษบทหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ความผิดแต่ละบทมีระวางโทษเท่ากัน ให้ลงโทษตามมาตรา 12 จำคุกคนละ 6 ปี

สำหรับจำเลยที่ 3 - 5 ซึ่งเป็นกลุ่มเอกชนมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เดิม ประกอบมาตรา 86 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11 และมาตรา 12 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐโดยทุจริตกำหนดเงื่อนไขอันเป็นมาตรฐานในการเสนอราคาโดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคาให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ

เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐโดยทุจริตกำหนดเงื่อนไขอันเป็นมาตรฐานในการเสนอราคาโดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคาให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11 มาตรา 12 ประกอบมาตรา 86 ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีบทโทษบทหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ความผิดแต่ละบทมีระวางโทษเท่ากัน ให้ลงโทษตามมาตรา 12 จำคุกคนละ 4 ปี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง