สนามข่าว 7 สี - กลุ่มผู้เสียหายเป็นหญิงสาว เข้าร้องทุกข์กองบังคับการปราบปราม หลังถูกชายแสบ สวมเครื่องแบบตำรวจ-ทหาร หลอกให้รักและคบหา ก่อนถ่ายคลิปแบล็กเมล เรียกทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย
ผู้เสียหาย 4 คน พร้อม ต้นอ้อ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง หอบหลักฐานสำคัญเข้ายื่นเรื่องร้องทุกข์ต่อกองบังคับการปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับนายปิงปอง อายุ 28 ปี ที่มีพฤติกรรมสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการสวมเครื่องแบบตำรวจและทหาร เข้าหาผู้หญิงที่มีฐานะดีและตำแหน่งสูง เพื่อหลอกให้รักและคบหา ก่อนหว่านล้อมให้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง แล้วถ่ายคลิปแบล็กเมล เรียกร้องเงินทองและทรัพย์สิน หากเหยื่อรายใดไม่ยินยอม จะถูกข่มขู่ทำร้ายร่างกาย แถมมีการใช้ข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อไปแอบอ้างหลอกขายสินค้าออนไลน์โดยไม่มีการส่งของจริง
อดีตภรรยาของผู้ก่อเหตุ บอกว่า รู้จักฝ่ายชายขณะทำงานเป็นบอดี้การ์ดและคนขับรถในกระทรวงแห่งหนึ่ง หลังคบหากันได้เพียง 2 สัปดาห์ ฝ่ายชายขอร้องให้จดทะเบียนสมรส ตนหลงเชื่อไปจดทะเบียนสมรส แต่หลังจดเสร็จไม่กี่นาที ฝ่ายชายเปลี่ยนเป็นคนละคน เริ่มทำร้ายร่างกาย แอบถ่ายคลิปลับ และคบซ้อนกับหญิงอีกหลายคน
อีกคนที่ตกเป็นเหยื่อ นางสาวบี อายุ 21 ปี ชาว สปป.ลาว เล่าว่า รู้จักกับผู้ก่อเหตุผ่านแอปพลิเคชันหาคู่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตอนนั้นผู้ก่อเหตุแต่งชุดทหารมาหลอกจะพาไปกินข้าว แต่กลับพาเข้าโรงแรม บังคับให้มีความสัมพันธ์กันเพื่อถ่ายคลิปลับ ด้วยความไม่ใช่คนไทย จึงไม่กล้าแจ้งความ ทำให้ผู้ก่อเหตุใช้เป็นช่องโหว่ บังคับพาไปที่เขื่อนแห่งหนึ่งในจังหวัดสระแก้ว ใช้กำลังล่วงละเมิดทางเพศและทิ้งไว้ที่ป่าข้างทาง ทำให้เกิดผลกระทบต่อสภาพจิตใจอย่างรุนแรงป่วยเป็นโรคซึมเศร้า
ต้นอ้อ บอกว่า มีผู้เสียหายที่เข้ามาร้องทุกข์เกือบ 100 ราย แต่หลายคนไม่กล้าแจ้งความเนื่องจากถูกข่มขู่ พฤติกรรมของผู้ก่อเหตุถือเป็นภัยคุกคามต่อสังคมและอาจเข้าข่ายการค้ามนุษย์ จึงเตือนผู้หญิงให้ระมัดระวังและตรวจสอบข้อมูลกับหน่วยงานต้นสังกัดจริงก่อน หากพบชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจหรือทหาร เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวงในลักษณะนี้
