บุกจับขบวนการลักลอบขุดป่าสงวนอมก๋อยเตรียมยึดป่าทั้งผืน

วันนี้ (20 ก.ย. 68) ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.)
ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา นายอนันต์ อายุ 21 ปี โดยกล่าวหาว่า

พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484
-มาตรา 54 ประกอบ 72  ตรี ฐาน “ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต”               .

พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 
-มาตรา 14 ประกอบมาตรา 31  ฐาน  “ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ยึดถือ ครอบครองทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”

ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497
-มาตรา 9 มาตรา 108 ทวิ  ฐาน “เข้าไปยึดถือ ครอบครอง รวมตลอดถึงการก่นสร้าง หรือเผาป่า ทำด้วยประการใดให้เป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน ที่หิน ที่กรวด หรือที่ทราย หรือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเป็นอันตรายแก่ทรัพยากรในที่ดิน”                         

พร้อมตรวจยึดของกลาง

1.รถแบคโฮล สีเหลือง จำนวน 1 คัน มูลค่ากว่า 2,000,000 บาท อุปกรณ์ซึ่งมีไว้เป็นความผิดหรือได้ใช้ในการกระทำความผิด   

2.ตรวจยึดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แจ่มและป่าแม่ตื่น ถูกบุกรุก เนื้อที่ประมาณ 1 งาน 64 ตารางวา คิดค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 27,880.00 บาท              

โดยสามารถจับกุม ได้ที่บริเวณป่าท้องที่ในพื้นที่ ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แจ่มและป่าแม่ตื่น

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. ชป.เชียงใหม่ บุกเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แจ่มและป่าแม่ตื่น อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่
เมื่อเข้าถึงจุดเกิดเหตุ พบรถแบคโฮกำลังขุดตักดินเพื่อสร้างสระเก็บน้ำกลางป่าธรรมชาติ พร้อมชายคนหนึ่งอยู่ในที่นั่งคนขับ ขณะเดียวกันพบกลุ่มบุคคลอีก 3 รายหลบหนีเข้าไปในป่าทันทีที่เห็นเจ้าหน้าที่ เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด

จากการตรวจสอบพื้นที่ พบร่องรอยการบุกรุกกว่า 1 งาน 64 ตารางวา คิดค่าความเสียหายสิ่งแวดล้อมกว่า 27,000 บาท และเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าว่าหากการขุดสระน้ำสำเร็จ ขบวนการนี้มีแผนจะใช้เป็นจุดเริ่มต้นขยายพื้นที่บุกรุกต่อ เพื่อเอาน้ำจากสระมาทำการปลูกพืชและเข้ายึดครองผืนป่าเพิ่มเติมอีกจำนวนมาก พื้นที่ดังกล่าวไม่มีเอกสารสิทธิ ไม่มีการอนุญาตจากรัฐ และอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติชัดเจน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา "บุกรุก แผ้วถาง และครอบครองพื้นที่ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต" ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ

ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลไล่ล่าผู้ร่วมขบวนการและตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งหากปล่อยให้การกระทำนี้ดำเนินต่อไป จะส่งผลให้ทรัพยากรป่าไม้เสียหายรุนแรง และเกิดการยึดครองพื้นที่ป่าอย่างต่อเนื่อง และเป็นสาเหตุหลักของปัญหาอุทกภัยในพื้นที่อยู่อาศัยโซนล่างต่อไป