เจาะประเด็นข่าว 7HD - ไปดูสถานการณ์น้ำในพื้นที่ต่างจังหวัด อย่างที่จังหวัดชัยนาท เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ ในเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
เริ่มที่จังหวัดชัยนาท สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ และการป้องกัน แก้ไขภาวะน้ำท่วมลุ่มน้ำเจ้าพระยา ดูการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ที่ตอนนี้ได้เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำเป็น 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อลดความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนอย่างมากที่สุด และต้องเฝ้าระวังในช่วงสิ้นเดือนนี้ ที่คาดว่าฝนจะตกเพิ่มขึ้น หากต้องระบายน้ำเพิ่ม จะมีการการแจ้งเตือนประชาชนก่อน เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือ
ต่อกันที่ มัสยิด และบ้านเรือนริมน้ำเจ้าพระยา ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังวิกฤติ ล่าสุดขยายวงกว้างครอบคลุม 8 อำเภอ 103 ตำบล 626 หมู่บ้าน รวมกว่า 31,227 ครัวเรือน ที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะชุมชน และบ้านเรือนที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และมัสยิดดารุซซุนะห์ ซึ่งอยู่นอกคันกั้นน้ำ
ชาวบ้านจำนวนมาก ประสบปัญหาการสัญจรลำบาก บางจุดจำเป็นต้องใช้เรือ บางจุดต้องเดินลุยน้ำเข้า-ออกบ้าน และมัสยิด ขณะที่องค์การบริหารส่วนตำบล ภูเขาทอง เร่งนำไม้มาทำสะพานชั่วคราว เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินเข้าสู่มัสยิดเพื่อประกอบพิธีละหมาด พร้อมทั้งเร่งตัดต้นไม้และกำจัดวัชพืช เพื่อจัดทำพื้นที่จอดเรือริมถนนสำหรับชาวบ้าน
ที่จังหวัดกาฬสินธุ์อ่วม แค่หมู่บ้านเดียว น้ำท่วมนาข้าวแล้วกว่า 3,000 ไร่ ชาวบ้านวอนแก้ไขอย่างจริงจัง โดยเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำ ณ บ้านดอนสนวน ตำบลหลุบ จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบอุทกภัย พบว่าพื้นที่ดังกล่าว อยู่ติดกับลำน้ำปาว ทำให้มีน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี ซึ่งในปีนี้ เจออิทธิพลของพายุคาจิกิ และพายุหนองฟ้า ประกอบกับการระบายน้ำของเขื่อนลำปาว ส่งผลให้น้ำในลำน้ำปาวเอ่อล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ทางการเกษตร ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
เห็นได้จากภาพมุมสูง พื้นที่นาข้าวของชาวบ้าน พบนาข้าวของชาวบ้าน เต็มไปด้วยน้ำ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้นำรถแบ็กโฮมากำจัดวัชพืช ที่ขวางทางการระบาย แต่สิ่งที่ชาวบ้านต้องการคือ การแก้ปัญหาระยะยาว ไม่เจอปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากแบบนี้ทุกปี นาข้าวเสียหายทุกปี ฝากถึงนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เข้ามาช่วยแก้ปัญหา
