วัยรุ่นหลายประเทศลุกฮือตามรอย "เนปาลโมเดล" ออกมาประท้วงรัฐบาล ทั้งที่ฟิลิปปินส์ และเปรู แม้ว่าความรุนแรงจะไม่เท่าเนปาล แต่ก็มีรายงานเหตุปะทะเกิดขึ้น
สถานการณ์ประท้วงที่กรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์ วานนี้ (21 ก.ย.) เป็นไปอย่างดุเดือด หลังมีกลุ่มผู้ประท้วง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น ออกมารวมตัวประท้วงต่อต้านการทุจริตโครงการป้องกันน้ำท่วมของรัฐบาล ซึ่งใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 545,000 ล้านเปโซ หรือกว่า 3 แสนล้านบาท นับตั้งแต่ปี 2565 แต่ช่วงฤดูมรสุมหลายเดือนที่ผ่านมา กลับเกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่หลายครั้ง ซึ่งประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ สั่งให้ตั้งคณะกรรมการอิสระสอบสวนความผิดปกติดังกล่าวแล้ว
เมื่อผู้ประท้วงเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปยังทำเนียบประธานาธิบดี แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลขัดขวาง จึงเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง ผู้ประท้วงมีการขว้างปาก้อนหินและระเบิดขวดใส่ตำรวจ เผายางรถยนต์ และทำลายรั้วกั้น เจ้าหน้าที่จึงตอบโต้ด้วยระเบิดแสงและน้ำแรงดันสูง ขณะที่ มีรายงานผู้ประท้วงกว่า 70 คน ถูกจับกุม และมีผู้บาดเจ็บเกือบ 40 คน
ส่วนที่เปรู ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มวัยรุ่นออกมารวมตัวต่อต้านรัฐบาลประธานาธิบดีดินา โบลัวร์เต ด้วยการประท้วงที่ใช้ชื่อว่า "การเดินขบวนของเจเนอเรชัน ซี" (Generation Z March) จัดโดยนักศึกษาและนักเคลื่อนไหว ซึ่งกล่าวหาว่ารัฐบาลล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาอัตราการก่ออาชญากรรมที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ และการปฏิรูปเงินบำนาญ ทั้งยังใช้กำลังเกินกว่าเหตุในการประท้วงที่ผ่านมา โดยในการประท้วงครั้งล่าสุดนี้ ตำรวจใช้ก๊าซน้ำตาและโล่ผลักฝูงชนเพื่อพยายามสลายการชุมนุม
ตำรวจรายงานว่ามีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 3 นาย ขณะที่ผู้ประท้วงกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ใช้กำลังเกินกว่าเหตุและปราบปรามอย่างไม่เลือกหน้า รวมถึงกับคนทั่วไปที่ไม่ใช่ผู้ประท้วงที่อยู่บริเวณนั้นด้วย
