ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พา "น้องตุ๊กตา" อายุ 41 ปี เจ้าของธุรกิจส่วนตัว ซึ่งเป็นผู้เสียหายตั้งโต๊ะแฉหมอดูผู้วิเศษรายใหม่ "อาจารย์ อ." จากค่าทำนาย 999 บาทแต่ไปจบจ่ายจริงที่ 2 -3 ล้านบาท โดยที่ชีวิตก็ไม่ได้ดีขึ้น กลับแย่ลงเพราะต้องเป็นหนี้จากการกู้เงินมาบูชา
น้องตุ๊กตา หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า รู้จักหมอดู อ. ผ่านรายการหนึ่งของพิธีกร ม.ด. จึงติดต่อไปทางไลน์ ขอดูดวง ราคา 999 บาท ต้องรอคิว 1-2 ปี แต่หากอยากได้คิวเร่งด่วนต้องจ่าย 5,000 บาท จะเหลือรอคิวครึ่งปี แต่หากอยากได้เร็วกว่านั้นก็จะมีค่าดูดวงหลักหมื่น โดยระหว่างที่ตนเองจองคิวไปแล้ว รอดูดวง ก็ไปเจอแอดมินของอาจารย์บนเฟซบุ๊ก มีการเสนอบูชาเครื่องรางองค์เทพ ได้ใกล้ชิดอาจารย์มากขึ้น โดยบอกว่าตนเองมีปัญหาธุรกิจ ต้องบูชาองค์พระพิฆเนศ และพระแม่ลักษมี องค์ละ 45,000 บาท รวม 90,000 บาท โดยที่ก็ยังไม่ได้เริ่มดูดวง จากนั้นแอดมินก็พาเข้ากลุ่มลับ และอ้างถึงดาราผู้มีชื่อเสียง น. , ดารา ญ. , ดีเจคนนึง และบอกว่าบูชาองค์เทพต่างๆ ของอาจารย์ ก่อนจะให้สมาชิกประมูลเครื่องรางเหล่านี้ บางทีก็อ้างว่าองค์เทพเรียก อยากจะไปอยู่ด้วย บอกว่าจะช่วยแก้ปัญหาในชีวิต หรือทำให้ร่ำรวยขึ้น แล้วทั้งแอดมินและคนในกลุ่มก็จะช่วยกันเชียร์ ว่าเป็นบุญมากเลย ตนเองก็ต้องยอมบูชาจากแรงกดดัน ขณะที่ในใจไม่ได้มองว่าเป็นบุญ แต่มองว่าชิบหายมากเลย เพราะตอนนั้นไม่มีเงินแล้ว มารู้ตอนหลังพบว่าราคาที่ตนเองได้เป็นราคาสมาชิกกลุ่มอเมริกา ซึ่งแพงกว่าราคาสมาชิกกลุ่มไทยเท่าตัว
นอกจากนี้จะมีการทำพิธีในวันมงคลต่างๆ ก็อ้างว่าหากเข้าร่วมพิธีก็จะรวยขึ้น แต่ต้องจ่ายเงินบูชาเพิ่ม มีค่าของถวายของไหว้ เครื่องรางต่างๆ อีก รวมแล้วตนเองบูชาองค์เทพไปกว่า 20 องค์ ภายในห้วงเวลา 3 เดือน รวมมูลค่า 2-3 ล้านบาท และทุกๆ การบูชาองค์เทพ อาจารย์ อ. ก็จะดูดวงให้ฟรี 30 นาที เพื่อจูงใจให้เกิดการบูชาครั้งต่อๆ ไป แต่สุดท้ายชีวิตก็ไม่ได้ดีขึ้น กลับกันหนักกว่าเดิม ยิ่งเป็นหนี้จากการบูชาองค์เทพ เพราะเมื่อบอกว่าไม่มีเงิน แอดมินก็จะบอกให้ไปกู้เงินบัตรเครดิตเพื่อนำมาบูชา ทำให้ตอนนี้เป็นหนี้อยู่ประมาณ 3 ล้านบาท จากนั้นก็เริ่มเป็นโรคซึมเศร้า
ด้านทนายรณณรงค์ บอกว่า เบื้องต้นมีรายชื่อผู้เสียหายกว่า 30 รายชื่อในกลุ่มที่อเมริกา ยอดเงินกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งผู้เสียหายกำลังเตรียมมอบอำนาจตั้งทีมทนายความเพื่อดำเนินคดี ส่วนผู้เสียหายในกลุ่มไทยก็ยังมีอีกจำนวนมาก อยู่ระหว่างรวบรวมผู้เสียหาย ซึ่งทางเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม อยู่ระหว่างดูประเด็นในข้อกฎหมาย จากนั้นเมื่อพยานหลักฐานพร้อมก็จะพาผู้เสียหายไปพบตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อปรึกษาเรื่องการดำเนินคดีต่อไป เพราะทราบว่าตอนนี้ตำรวจกำลังขยายผลเรื่องกลุ่มผู้วิเศษอยู่