เหิม ! แก๊งบัญชีม้า ฟอกเงินผ่านการซื้อทองคำ

View icon 111
วันที่ 24 ก.ย. 2568 | 07.04 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - ช่วงขาขึ้นราคาทองคำ พุ่งทะยานไม่หยุด และได้ขึ้นชื่อเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย แต่กลับกลายเป็นช่องทางแก๊งคอลเซนเตอร์ หลอกลวงเงินจากผู้เสียหาย แล้วนำมาฟอกเงินผ่านการซื้อทองคำ

ล่าสุด ศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซนเตอร์ และค้ามนุษย์นานาชาติ ตรวจพบความผิดปกติการสั่งซื้อทองคำ น้ำหนัก 80 บาท ผ่านบัญชี "นิติบุคคล" จึงให้ชุดสืบสวนไปสกัดจับ และขยายผลพบของกลางเพียบ

เป็นภาพตำรวจสืบสวนนครบาล กำลังควบสอบปากคำ หญิงไทย 2 คน ที่ สน.จักรวรรดิ หลังจากคุมตัวได้ขณะพวกเธอเดินทางจะไปรับทอง น้ำหนักรวม 80 บาท มูลค่าเกือบ 5 ล้านบาท จากร้านทองแห่งหนึ่ง ย่านเยาวราช แล้วศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซนเตอร์และค้ามนุษย์นานาชาติ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจพบความผิดปกติ ว่า การซื้อทองครั้งนี้ ไม่ชอบมาพากล โดยสงสัยน่าเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซนเตอร์ เนื่องจากพบพฤติการณ์ ใช้บัญชีม้าหลอกลวงผู้เสียหายโอนเงิน แล้วนำเงินมาซื้อทองอีกที

จากการสอบปากคำหญิงไทย 2 คน ทราบว่า คนหนึ่งเป็นเจ้าของบัญชีธนาคาร และอีกคน ทำหน้าที่ควบคุมการรับทอง โดยมีการว่าจ้างให้เจ้าของบัญชี เดินทางไปรับคนคุม ที่โรงแรมย่านจตุจักร แล้วพาไปรับทองย่านเยาวราช ได้รับค่าจ้างครั้งละ 2,000 บาท ซึ่งหลังจากรับทองแล้ว ก็จะมีผู้ร่วมขบวนการ เป็นคนไทย อีกคน มารับทองไปต่ออีกทอดนึง อ้างว่าเพิ่งเริ่มทำครั้งแรก 

เมื่อได้ข้อมูลมาแล้ว ชุดสืบสวนอีกชุด ลงพื้นที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่ใช้ในการสั่งการให้ไปกดเงิน และรับทอง โดยเข้าตรวจสอบห้องพักเป้าหมาย พบหลักฐานเพียบ มีทั้งตราประทับบริษัทนิติบุคคล 10 บริษัท เอกสารรับรองการเปิดบริษัท สมุดบัญชีธนาคาร 3 เล่ม โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ถุงใส่ทองคำ 3 ถุง ยาบ้าอีก 10 มัด พร้อมอุปกรณ์การเสพ

นอกจากนี้ ยังพบห้องพักบริเวณชั้นล่าง อีก 5 ห้อง ซึ่งใช้เป็นห้องพัก และห้องทำงานย่อย ๆ สามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการ เป็นชายได้อีก 3 คน

หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ รับว่า ถูกชักชวนเข้ามาทำงานในบริษัทเงินปล่อยเงินกู้ เพื่อคอยรับโอนเงิน และกดถอนเงินจากบัญชีม้า แต่ละวันมีหน้าที่สแกนใบหน้า เพื่อโอนเงิน รวมทั้งออกไปรับทองตามร้านค้าทองต่าง ๆ ได้ค่าจ้างเดือนละ 10,000-50,000 บาท ส่วนยาบ้าที่เจอ ผู้ร่วมขบวนการรายนี้ รับว่า เสพเองวันละ 10 เม็ด ร่วมกับการดื่มน้ำกระท่อม 

พลตำรวจตรี วสันต์ เตชะอัครเกษม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลว่า ขบวนการนี้หลอกลวงผู้เสียหาย 2 คน ในพื้นที่ สน.พญาไท และ สน.บางโพ โดยให้โอนเงินรวมกว่า 4.5 ล้านบาท เข้าบัญชีธนาคารของบริษัทนิติบุคคล กระทั่งศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซนเตอร์และค้ามนุษย์นานาชาติ พบความผิดปกติ จึงแจ้งตำรวจสืบสวนนครบาล สกัดจับ

ส่วนที่ต้องทำต่อหลังจากนี้ คือ การขยายผล ถึงพฤติการณ์หลอกลวงของแก๊งคอลเซนเตอร์ เพื่อเอาผิดผู้ร่วมขบวนการที่เหลือ ที่คาดว่าหลบหนีไปได้ก่อน ตำรวจจะตามสืบมาถึงที่โรงแรม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง