ชาวกัมพูชา ยังเคลื่อนไหวบ้านหนองจาน

View icon 116
วันที่ 24 ก.ย. 2568 | 11.21 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - ชาวกัมพูชายังคงเคลื่อนไหวต่อเนื่อง เดินทางมารวมต่อที่บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว โดยมี กำนันลี และผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจีย คอยให้การสนับสนุนเรื่องอาหาร และการเดินทาง ซึ่งต้องมาดูกันว่าจะเป็นไปตามที่ผู้ว่าฯ จังหวัดสระแก้ว ยืนกรานหรือไม่ว่าชาวกัมพูชาต้องออกจากพื้นที่อธิปไตยไทย ภายในวันที่ 10 ตุลาคมนี้

จากการบินโดรนสำรวจของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง กองกำลังบูรพา ในพื้นที่ชายแดนบ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ได้รับรายงานว่าตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ (23 ก.ย.) มีชาวกัมพูชา เดินทางมารวมตัวใกล้กับแนวรั้วลวดหนาม และผ้าสแลนสีดำ

ต่อมาช่วงเที่ยง (23 ก.ย.) ที่บริเวณหลักเขตแดนที่ 46 พบความเคลื่อนไหว มีทั้งทหารกัมพูชา และชาวกัมพูชา มารวมตัวกัน โดยมีกำนันลี เป็นผู้เกณฑ์ชาวบ้าน ผู้สูงอายุ ผู้พิการ พระสงฆ์ หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็ก จากตำบลใกล้เคียงเข้าพื้นที่บ้านหนองจาน เพื่อร่วมทำกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มเติมในช่วงบ่าย

ทั้งนี้ยังพบว่ามีการตั้งโรงทานของผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจีย เลี้ยงขนมจีน ขนมทอด และข้าวต้มมัด แก่ชาวบ้าน-พระสงฆ์ และทหาร ตำรวจกัมพูชา ในพื้นที่ชายแดนบ้านหนองจานด้วย แม้ว่าจะมีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่พ่อครัวแม่ครัวก็ไม่ถอย ขอทำอาหารต่อไป

ต่อมาในช่วงเย็น พระกัมพูชา ซึ่งมีรายงานว่าเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ ตำแหน่งเจ้าคณะเขต เจ้าอาวาส พระสังฆาธิการ จากหลายจังหวัดของกัมพูชา ได้นำอาหารสด อาหารแห้ง และเสื้อผ้ามามอบให้แก่ชาวบ้าน และเด็ก ๆ รวมทั้งทหารตำรวจกัมพูชาที่อาศัยและประจำการอยู่ในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว

ส่วนที่บริเวณจุดตรวจบ้านหนองจาน ที่มีเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมพื้นที่ประจำอยู่ มีประชาชนชาวไทยเดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารฯ ส่วนที่บริเวณจุดตรวจ ถนนศรีเพ็ญ บ้านหนองหญ้าแก้ว ก็มีเจ้าหน้าที่ทหารประจำพื้นที่คุมไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่ชายแดนใกล้กับบ้านเปรยจันทน์ ฝั่งกัมพูชา

ทั้งนี้ยังมีการแชร์ข้อมูลว่า สาเหตุที่พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดสระแก้ว ยังมีการรวมตัวของชาวกัมพูชาอย่างต่อเนื่องทุกวัน เนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ยืนกรานว่า ชาวกัมพูชาต้องออกจากพื้นที่อธิปไตยไทยภายใน 30 วัน ครบกำหนดวันที่ 10 ตุลาคมนี้ ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจีย และกำนันลี ต้องปลุกระดมชาวบ้านมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมแสดงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ กดดันทางการไทย เพราะต้องการพื้นที่ดังกล่าวมาสร้างเป็นกาสิโน