ห้องข่าวภาคเที่ยง - ยังคงอยู่ระหว่างการหาคำตอบว่า การสั่งซื้อทองคำน้ำหนัก 80 บาท ผ่านบัญชี "นิติบุคคล" ที่ต้องสงสัยว่าเป็นบัญชีม้า มีแผนประทุษกรรมอย่างไร จึงต้องเริ่มไล่สอบปากคำผู้เสียหาย เพื่อหาคำตอบ
นี่เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยว่าร่วมขบวนการสั่งซื้อทองคำน้ำหนัก 80 บาท ผ่านบัญชี "นิติบุคคล" ที่ต้องสงสัยว่าเป็นบัญชีม้า เพราะตำรวจไปเจอตัวภายในโรงแรม ย่านพหลโยธิน ซึ่งเป็นจุดสั่งการ
รับว่า ถูกชักชวนเข้ามาทำงานในบริษัทเงินปล่อยเงินกู้ เพื่อคอยรับโอนเงิน และกดถอนเงินจากบัญชีม้า แต่ละวัน มีหน้าที่สแกนใบหน้า เพื่อโอนเงิน รวมทั้งออกไปรับทองตามร้านค้าทองต่าง ๆ ได้ค่าจ้างเดือนละ 10,000-50,000 บาท
แต่เพราะยังไม่รู้แน่ชัดว่าแผนประทุษกรรมของแก๊งนี้คืออย่างไรแน่ ก็เลยต้องนัดสอบปากคำผู้เสียหาย โดย ผู้กำกับการ สน.บางโพ ให้ข้อมูลว่า เพิ่งได้สอบปากคำ 1 ผู้เสียหาย เสร็จไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน เล่าให้ฟังได้คร่าว ๆ ว่า เธอถูกแก๊งคอลเซนเตอร์โทรศัพท์มาหลอก อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จาก กสทช. ตรวจพบบัตรประชาชนของเธอ ถูกเอาไปเปิดบัญชีธนาคาร และลงทะเบียนซิมโทรศัพท์ ให้โอนเงินมาตรวจสอบ ซึ่งเธอหลงเชื่อโอนเงินไป 55,000 บาท ก่อนจะมารู้ตัวภายหลังว่าถูกหลอก และเข้าแจ้งความ
แต่ถ้าเป็นแค่ยอดนี้ก็น่าจะยังไม่ถึงจำนวนเงินกว่า 4.5 ล้านบาท ที่ใช้เอาไปซื้อทอง ก็ต้องไปดูข้อมูลจากศูนย์ IAC พบว่า จริง ๆ แล้วที่ตรวจพบ ไม่ใช่เส้นเงินแค่เส้นเดียว แต่มีเข้ามาเป็นจำนวนมาก ก่อนส่งไปรวมที่บัญชีนิติบุคคล จากนั้นถึงเกิดการว่าจ้างให้หญิงสาว 2 คน ไปรับเอาทองคำจากย่านเยาวราชมาส่ง แต่เพราะบัญชีถูกอายัด จึงไม่สามารถรับทองได้
ซึ่งจากการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยทั้งหมด 5 คน ไว้สอบปากคำ ตอนนี้ตำรวจได้ปล่อยตัวหญิง 2 คน ที่เป็นคนรับทอง และชาย 1 คนที่พบตัวในโรงแรมย่านพหลโยธิน ให้กลับไปก่อน ส่วนชาย 1 คน ที่รับว่าครอบครองยาบ้าไว้เสพ ถูกส่งตัวให้ สน.พหลโยธิน รับตัวไปดำเนินคดี และอีก 1 คน เป็นหญิง ที่พบตัวในโรงแรม พบว่ามีหมายจับค้างเก่า จึงส่งตัวไปดำเนินคดีแล้วเช่นกัน