"บิ๊กเล็ก" ออก 4 นโยบาย 4 เดือนต้องทำให้ได้ ประเดิม ส่ง “บิ๊กดุลย์” ลุยศรีสะเกษติดตามปมทหารกัมพูชายิงปืนเล็ก ศบ.ทก. ไม่จำเป็นต้องมีแล้ว นายกฯ คุมงานด้านความมั่นคง เชื่อสื่อสารไปยัง ปชช. ได้
วันนี้ (25 ก.ย.68) พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนเข้ารับหน้าที่ และแถลงนโยบายรัฐบาลว่า รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่ง และได้รับพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในกระแสรับสั่งบางข้อความ ตนรับเอาเป็นพระบรมราโชวาทด้วย และจะตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดความสามารถ ในกรอบหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งวันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการเต็มตัว ก็จะมุ่งเน้นในมิติของความมั่นคงเป็นหลัก ในส่วนเรื่องอื่นให้เป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะมอบหมายให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการ
พลเอก ณัฐพล ระบุว่า ได้มอบหมายให้ พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ หลังเกิดกรณีทหารกัมพูชายิงปืนที่ช่องภูผี ซึ่งเป็นการยั่วยุไม่ทำตามข้อตกลง ของคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทยกัมพูชา หรือ GBC และเมื่อ พลโท อดุลย์ เดินทางกลับมา ก็จะมีการพูดคุยกรอบอำนาจหน้าที่ในการทำงานอีกครั้งหนึ่ง
“พี่ชายของพลโท อดุลย์ ก็เป็นเพื่อนผม การทำงานจะราบรื่นอยู่แล้ว อีกทั้งยังเป็นอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 สามารถเข้าใจปัญหาในพื้นที่ได้ดี ซึ่งจะทำให้ผมทำงานได้ง่ายขึ้น” พลเอก ณัฐพล ระบุ
พลเอก ณัฐพล ระบุอีกว่า ในส่วนของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา (ศบ.ทก.) ไม่จำเป็นต้องมีแล้ว เนื่องจากปัจจุบันมีรัฐบาล ครบ 36 คน ซึ่งต่อไป สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะทำหน้าที่สื่อสารไปยังประชาชน โดยมีนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง และถือเป็นจังหวะที่ดี เพราะนายกรัฐมนตรียังนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งจะทำให้งานที่เกี่ยวข้อง ระหว่างกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกลาโหมสอดคล้อง สามารถแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงได้เป็นอย่างดี ในขณะที่เรื่องเศรษฐกิจ มีทีมที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว
พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมได้เตรียมนโยบายเพื่อขับเคลื่อนในช่วง 4 เดือนของรัฐบาลนี้ เน้นในเรื่องการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้, สถานการณ์ชายแดนไทย - เมียนมา ซึ่งมีการปิดด่านผ่านแดนถาวร ตั้งแต่ท่าขี้เหล็ก, สิงขร และระนอง ซึ่งต้องดูว่า จะสามารถแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้อย่างไร และความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบภัยพิบัติ โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งตนได้รับปากเอาไว้ว่า ปีนี้จะต้องไม่เหมือนปีที่แล้ว และปัจจุบันได้มอบหมายให้กรมการทหารช่างเตรียมการทำพนังกั้นน้ำ ซึ่งตนเตรียมจะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด้วยตัวเอง ซึ่งตนคงจะเน้นย้ำใน 4 เรื่องนี้ใน 4 เดือน โดยได้เสนอเป็นนโยบายให้รัฐบาลว่า ขอเอาเรื่องสำคัญ
นอกจากนี้ ในห้วงเวลาดังกล่าวจะต้องมีการพิจารณาคำของบประมาณปี 2570 ด้วย โดยจะใช้สมุดปกขาว ของกระทรวงกลาโหมที่มีอยู่ ในการพิจารณาคำขอในปีต่อไป ส่วนนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 29 กันยายนนี้ มีไม่มากเนื่องจากมีเวลาเพียงแค่ 4 เดือน ต้องทำให้ได้ เพราะหากออกนโยบายไปมากแล้วทำไม่ได้จะถูกตำหนิ