หนุ่มวัย 31 ค้นหา "ร้านคาเฟ่ใกล้ฉัน" ก่อนตระเวนงัด 10 ร้าน หาเงินไปเล่นพนันและซื้อยามาเสพ สารภาพ เลือกงัดคาเฟ่ เพราะงัดง่าย น่าจะได้เงินเยอะ ดีกว่าเข้าบ้านคน
วันที่ 25 กันยายน 68 ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พ.ต.อ.ไกรทอง ชัยสิงห์ ผกก.สภ.เมืองมหาสารคาม พร้อมด้วย พ.ต.ท.กฤษฎา นิติพจน์ รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม , พ.ต.ท.สมพงษ์ สามสี รอง ผกก.ป.สภ.เมืองมหาสารคาม และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม ร่วมกันจับกุม นายธนา อายุ 31 ปี ในข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร”
พ.ต.อ.ไกรทอง ชัยสิงห์ ผกก.สภ.เมืองมหาสารคาม กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายเกือบ 10 ราย ที่ประกอบธุรกิจร้านอาหารและคาเฟ่ว่า มีคนร้ายก่อเหตุงัดร้าน เข้ามาขโมยทรัพย์สิน ในท้องที่ สภ.เมืองมหาสารคาม และ สภ.เขวาใหญ่ อ.กันทรวิชัย ซึ่งผู้ก่อเหตุดูจากกล้องวงจรปิด คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นบุคคลเดียวกัน จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว และติดตามตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางที่คิดว่าคนร้ายจะหลบหนี
จนทราบตำหนิรูปพรรณคนร้ายที่ก่อเหตุว่า คือ นายธนา เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามและสามารถจับกุมได้ที่หน้าบ้านเช่าหลังหนึ่ง ในชุมชนโพธิ์ศรี ซึ่งอยู่ห่างจากแฟลตตำรวจ สภ.เมืองมหาสารคาม เพียง 100 เมตร จากการตรวจค้นพบของกลางเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุ อาทิ ไขควง กรรไกรตัดกิ่ง มีดพับอเนกประสงค์ เสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ และรถจักรยานยนต์ สกู๊ปปี้ไอ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งใช้ตระเวนก่อเหตุ และยังพบทรัพย์สินของผู้เสียหาย ได้แก่ โน๊ตบุ๊ค เครื่องเก็บเงิน ลำโพง กล้องถ่ายรูป พร้อมกระเป๋ากล้อง อยู่ในบ้านเช่า เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนนำตัวมาทำบันทึกจับกุม และนำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดเกิดเหตุ
ซึ่งจากการสอบถามทราบว่า นายธนา ทำงานเป็นนักการภารโรง โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง สาเหตุที่ตระเวนก่อเหตุ เนื่องจากติดการพนันอย่างหนัก ต้องหาเงินไปปั่นสล็อต พอเล่นเสียก็จะตระเวนออกก่อเหตุ สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารและคาเฟ่ ต่าง ๆ ล่าสุดผู้ต้องหาได้เข้าไปก่อเหตุในร้านอาหารญี่ปุ่น แห่งหนึ่งได้ทรัพย์สินเป็นโน๊ตบุ๊ค เงินสดประมาณ 6,000 บาท และสุราต่างประเทศ 2 แบน ก่อนจะนำทรัพย์สินไปขาย เงินที่ได้ก็จะนำไปเล่นการพนัน และซื้อยาบ้ามาเสพ ราคาเม็ดละ 50 บาท โดยค้าหาข้อมูลจาก Google ว่า ร้านอาหาร หรือคาเฟ่ใกล้ฉัน ที่เลือกเป็นคาเฟ่ เพราะว่างัดง่าย น่าจะได้เงินเยอะ ดีกว่าเข้าบ้านคน ซึ่งพอเจอกล้องวงจรปิด ก็จะเอียงตัวเพื่อหลบกล้อง ดึงเสื้อฮู๊ดคลุมหัว และปิดบังใบหน้า อยากจะขอโทษผู้เสียหายทุกคน ตนยอมรับผิด ตนแค่อยากได้เงินเพื่อมาสนองตัณหาตนเอง โดยไม่คำนึงถึงความเสียหาย หรือความเดือดร้อนของเจ้าทรัพย์ ไม่ต้องการประสงค์ร้าย แค่ต้องการเงินมาเล่นพนัน พร้อมกับยกมือไหว้ขอโทษเจ้าของร้านทุกร้าน