สรุปข่าวรอบโลกประจำวันที่ 25 กันยายน 2568

สรุปข่าวรอบโลกประจำวันที่ 25 กันยายน 2568

View icon 97
วันที่ 25 ก.ย. 2568 | 17.36 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
Open World เปิดโลกรายวัน : สรุปข่าวรอบโลกประจำวันที่ 25 กันยายน 2568

1.พายุไต้ฝุ่น “รากาซา” ขึ้นฝั่งทางใต้ของจีนแล้ว

พายุไต้ฝุ่น "รากาซา" (Ragasa) ซึ่งเป็นพายุหมุนเขตร้อนที่รุนแรงที่สุดในปีนี้ กำลังเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งที่บริเวณเมืองหยางเจียง (Yangjiang) ในมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน ตอนราว 17 นาฬิกาวานนี้ (24 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางถึง 40 เมตรต่อวินาที ขณะที่ หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ไต้ฝุ่นรากาซาจะเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกด้วยความเร็วราว 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนจะค่อย ๆ อ่อนกำลังลง

ส่วนที่เมืองเซินเจิ้น (Shenzhen) มณฑลกวางตุ้ง อิทธิพลของพายุทำให้มีฝนตกหนักและกระแสลมแรง กระจกอาคารแตกเสียหาย เสาไฟฟ้าและต้นไม้จำนวนมากหักโค่น ซึ่งเจ้าหน้าที่เริ่มเข้าไปเก็บกวาดต้นไม้ที่หักลงมากีดขวางเส้นทางแล้ว ส่วนชาวเมืองบางส่วนระบุว่า พายุลูกนี้ไม่ได้มีความรุนแรงและสร้างความเสียหายเท่ากับไต้ฝุ่นมังคุด (Mangkhut) ที่พัดถล่มเมื่อปี 2561

ส่วนที่ไต้หวัน ทางการส่งเจ้าหน้าที่ทหาร 340 นาย เข้าช่วยเหลือประชาชนชุมชนกวงฟู่ (Guangfu) ในเมืองฮวาเหลียน (Hualien) เพื่อเก็บกวาดดินโคลนและฟื้นฟูความเสียหาย หลังอิทธิพลของไต้ฝุ่นรากาซาทำให้ทะเลสาบล้นทะลัก นำเอาดินโคลนจำนวนมหาศาลไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 คน สูญหายอีก 33 คน

ส่วนที่เขตบริหารพิเศษฮ่องกง สนามบินนานาชาติกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งแล้วตั้งแต่เวลา 6 นาฬิกาที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น หลังปิดให้บริการไป 36 ชั่วโมง เช่นเดียวกับบริการขนส่งมวลชน, โรงเรียน, ร้านค้าและธุรกิจต่าง ๆ ที่เริ่มกลับมาดำเนินการอีกครั้ง โดยที่ฮ่องกงมีรายงานผู้บาดเจ็บมากกว่า 100 คน อาคารหลายแห่งถูกกระแสลมแรงพัดพังเสียหาย ต้นไม้หักโค่นกว่า 1,000 ต้น

2.กัมพูชา ปฏิเสธไม่ได้ยิงยั่วยุ ยืนยันเสียงปืนมาจากฝั่งไทย
จากกรณีที่ กองทัพภาคที่ 2 รายงานว่า เมื่อเวลา 20.50 น. วานนี้ (24 ก.ย. 68) ฝ่ายทหารไทยที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณ พื้นที่ช่องกร่าง ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ทางทิศตะวันออก ระยะประมาณ 150 เมตร ติดแนวลวดหนามของฝ่ายเรา และยังตรวจพบแสงไฟประมาณ 5 ดวง ในระยะ 100 เมตร บริเวณแนวรั้วลวดหนาม พร้อมทั้งได้ยินเสียงปืนเล็กยิงเข้ามาบริเวณพื้นที่วางกำลังของฝ่ายเรา จำนวน 3 นัด คาดว่าฝ่ายทหารกัมพูชาพยายามเข้ามาเกาะแนวลวดหนามของฝ่ายเรา ต้องการตรวจสอบแนวการวางกำลัง และยั่วยุฝ่ายทหารไทย

ทาง พล.ท.หญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา ได้ออกมาแถลงตอบโต้ว่า กองทัพไทยและสื่อไทยหลายสำนักรายงานอ้างว่า กองทัพกัมพูชาทำการยั่วยุในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ของไทย ตลอดคืนวันที่ 24-25 กันยายน ทั้งเสียงปืน เสียงระเบิด และการเคลื่อนไหวไปยังพื้นที่ลวดหนาม ขอยืนยันว่ากองทัพกัมพูชาไม่ได้ริเริ่มการยั่วยุหรือดำเนินกิจกรรมใด ๆ ที่ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงตามที่ฝ่ายไทยกล่าวหา

นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา กล่าวว่าทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่แนวหน้าได้รายงานว่า มีการยิงปืนหลายนัดจากฝ่ายไทยในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา โดยได้ยินเสียงปืน 1 นัด เมื่อเวลา 02.57 น., นัดที่ 2 เวลา 05.00 น., นัดที่ 3 เวลา 06.00 น. และนัดที่ 4 เวลา 07.00 น.

3.อิสราเอลเตรียมประณาม ชาติที่รับรอง “รัฐปาเลสไตน์”
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล กล่าวก่อนออกเดินทางไปยังนครนิวยอร์ก ของสหรัฐฯ เพื่อร่วมการประชุมใหญ่สมัชชาสหประชาชาติ โดยเผยว่า ในการกล่าวสุนทรพจน์ เขาจะประณามการรับรองรัฐปาเลสไตน์ของผู้นำหลายประเทศ อาทิ อังกฤษ, ฝรั่งเศส และออสเตรเลีย ซึ่งแทนที่จะประณามฆาตกรฮามาส กลับจะให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์บนแผ่นดินของอิสราเอล ซึ่งมันไม่มีทางเกิดขึ้นได้แน่

นอกจากนี้ เขายังมีกำหนดหารือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อบอกกล่าวถึงโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่จะตามมาหากอิสราเอลเอาชนะกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาได้ และให้ทราบถึงความจำเป็นในการที่อิสราเอลต้องเอาชนะสงครามครั้งนี้ เพื่อนำตัวประกันที่เหลือทั้งหมดกลับคืนมา และเพื่อทำให้เกิดสันติภาพมากขึ้น

4.ญี่ปุ่นหนุนอาเซียนร่วมกันรับมือนโยบายการค้าสหรัฐฯ
ในการประชุมความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership) หรือ RCEP ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย วันนี้ (25 ก.ย.) นายโยจิ มูโตะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ, การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เรียกร้องให้กลุ่มอาร์เซ็ปร่วมกันรักษาระเบียบการค้าระหว่างประเทศ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก อันเนื่องมาจากภาษีศุลกากรและนโยบายการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น นับตั้งแต่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามารับตำแหน่ง

โดยให้เหตุผลว่า กลุ่มอาร์เซ็ป ซึ่งมีสมาชิกเป็นประเทศอาเซียน 10 ประเทศ และพันธมิตร 5 ประเทศ ได้แก่ จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ขณะที่ ฮ่องกง, ศรีลังกา, ชิลี และบังกลาเทศ แสดงความสนใจที่จะเข้าร่วม ถือเป็นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีประชากรรวมกันกว่า 2,000 ล้านคน หากรวมตัวกันได้จะมีประโยชน์ในการเจรจาต่อรองทางการค้ามาก

5."เนปาลโมเดล" แบบอย่าง คนรุ่นใหม่ประท้วงในอินเดีย
เกิดการประท้วงเรียกร้องสิทธิในการเลือกตั้งผู้บริหารของตนเองในเขตลาดักห์ (Ladakh) หรือ "ทิเบตน้อย" แทบเทือกเขาหิมาลัยของอินเดีย ติดชายแดนประเทศจีน เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (24 ก.ย.) เกิดขึ้นจากการที่ผู้ประท้วงก่อเหตุวางเพลิงและปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนของอินเดีย จนกลายเป็นเหตุจลาจล มีผู้ประท้วงเสียชีวิต 4 คน บาดเจ็บอีกหลายสิบคน ขณะที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บกว่าสิบนาย

ทางการอินเดียอ้างว่าสาเหตุที่การประท้วงเป็นไปด้วยความรุนแรง เป็นเพราะคำพูดยั่วยุของ โซนัม วังชุก นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่อดอาหารประท้วงอย่างสันติ ตั้งแต่วันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา ขณะที่ วังชุก โต้ว่า เป็นเพราะคนรุ่นใหม่ "Gen Z" ต้องการแสดงออกถึงความไม่พอใจต่อนายนเรนทรา โมที นายกรัฐมนตรีอินเดีย ที่ไม่ตอบสนองต่อเสียงเรียกร้องเสียที

ทั้งนี้ ภูมิภาคลาดักห์ ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธและมุสลิม สูญเสียสถานภาพกึ่งปกครองตนเอง เมื่อถูกแยกออกจากแคว้นจัมมูและแคชเมียร ์เมื่อปี 2562 ต้องการเรียกร้องสิทธิในการเลือกผู้บริหารท้องถิ่น และต้องการให้จัดสรรโควตาการจ้างงานให้กับคนท้องถิ่น ซึ่งมีการเจรจากับรัฐบาลอินเดียมาตั้งแต่ปี 2566 แต่ยังคงไม่มีความคืบหน้าใด ๆ