เช้านี้ที่หมอชิต - ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดนมีบางส่วนเริ่มอพยพไปยังศูนย์พักพิง ขณะที่อีกส่วนก็มีการเตรียมความพร้อมจัดเสื้อผ้า และอุปกรณ์จำเป็นไว้พร้อมอพยพทันที หากเกิดการปะทะกันอีกระหว่างทหารไทยและกัมพูชา
ที่เห็นเป็นศูนย์พักพิง ที่วัดแห่งหนึ่ง ในตัวเมือง จังหวัดสุรินทร์ ที่เริ่มมีผู้อพยพทั้งชายและหญิง รวมทั้งผู้สูงอายุ เข้าไปพักอาศัย เพราะเกรงว่าจะมีการปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชาอีกครั้ง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ที่ญาติ ๆ พาไปอาศัยวัดแห่งนี้ก่อน เพื่อความปลอดภัย ขณะที่ทางวัดได้มีการตัดหญ้า และเตรียมสถานที่ เพื่อรองรับหากเกิดเหตุการณ์ที่จำเป็นต้องอพยพ
ชาวบ้านที่เดินทางไปพักอาศัยอยู่ที่วัด บอกว่า มาจากอำเภอพนมดงรัก พร้อมกับสัตว์เลี้ยงมาด้วย เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย แม้ว่าจะได้รับผลกระทบ แต่ก็อยากให้ทหารรบเต็มที่ จะทำอะไรก็ทำอยากให้จบในรุ่นนี้
ส่วนที่เห็นเป็นชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดน 3-4 กิโลเมตร ที่จัดเสื้อผ้าสิ่งของจำเป็นขึ้นรถเตรียมไว้ พร้อมอพยพได้ทันทีหากเกิดสถานการณ์ความรุ่นแรงขึ้น
ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ต่างไม่เชื่อว่าเสียงปืนที่ดังต่อเนื่องจากฝ่ายกัมพูชาไม่ใช่ปืนลั่น แต่เชื่อจงใจยั่วยุ พร้อมเรียกร้องให้ทหารแนวหน้าหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตอบโต้กัมพูชากลับ หากเป็นไปได้ก็อยากให้จัดการให้จบโดยเร็ว อย่าปล่อยให้ยืดเยื้อออกไปอีก
เช่นเดียวกับชาวบ้านในพื้นที่บ้านภูมิซรอล ตำบลเสาธงชัย อำเภอกัทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่มีการเตรียมเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้พร้อมอพยพ โดยก่อนหน้านี้ที่มีเสียงปืนเล็กยาวก็ได้มีการอพยพออกไปรอบหนึ่งแล้ว แต่ที่กลับมาอีกเพราะต้องมาทำมาหากิน
อย่าง นางรุ่งทิพย์ เสนาพันธ์ เจ้าของร้านซักอบรีด บอกว่า เมื่อคืนก่อนได้ไปนอนพักที่บ้านญาติ พอชาวจึงกลับเข้าบ้าน เชื่อว่าหากปะทะกันจะต้องมีกระสุนเข้ามาตกอีก จึงเตรียมตัวไว้ พร้อมที่จะอพยพทันที ส่วนบ้านที่ผ่านแม้ได้รับเงินเยียวยามา 49,000 บาท ก็ยังไม่ได้ซ่อมแซม เพราะเชื่อว่าน่าจะต้องมีการปะทะกันอีก จึงเตรียมเอาไว้ซ่อมแซมครั้งเดียวเลย
ส่วนที่จังหวัดตราด อำเภอบ่อไร่ และอำเภอเมืองตราด ได้มีการแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมความพร้อม ด้วยการจัดเตรียมเสื้อผ้า สิ่งของเครื่องใช้จำเป็น รอกคำสั่งจากจังหวัดตราด หากมีคำสั่งก็สามารถอพยพได้ทันที