อพยพช้างหนีน้ำแม่แตงที่เริ่มสูงขึ้น

เช้านี้ที่หมอชิต - ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ จากอิทธิพลของพายุรากาซา อย่าง จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากน้ำในลำน้ำแม่แตงเพิ่มสูง ปางช้างต้องอพยพช้างออกจากพื้นที่เสี่ยง

อพยพช้างหนีน้ำแม่แตงที่เริ่มสูงขึ้น
บ้านช้างตระกูลแสน อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ได้เคลื่อนย้ายช้างออกจากพื้นที่เสี่ยงไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยที่เตรียมไว้ หลังปริมาณน้ำในลำน้ำแม่แตงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง จนถึงบริเวณจุดผูกช้างและอาคารจัดกิจกรรมการเรียนรู้สุขภาพช้าง ถือเป็นการเตรียมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน

ช่วยวัวติดโคลน น้ำท่วมแม่แจ่ม
นอกจากช้างที่ได้ผลกระทบ ที่ อำเภอแม่แจ่ม วัวก็เดือดร้อนเช่นกัน แม้ว่าน้ำแม่แจ่มจะลดลง แต่เจ้าวัวตัวนี้ ดันไปติดโคลน ไม่ได้กินอาหารมาแล้วสองวัน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งช่วยเหลือ จนสามารถลากเจ้าวัวออกจากโคลนตมได้อย่างปลอดภัย

สำหรับการณ์น้ำท่วม อำเภอแม่แจ่ม 2 วันที่ผ่านมา มีประชาชนได้รับผลกระทบประมาณกว่า 1,000 ครัวเรือน แม้ว่าตอนนี้น้ำจะลด ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะยังมีฝนตก

ทีมกู้ชีพอุ้มคนไข้ข้ามดินไหลส่ง รพ.
ด้านฝั่ง ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว เกิดดินไหล ปิดทับถนน ห้วยโจ้-ปางแม่ซ้าย-ปางแม่แมะ แล้วทีมเจ้าหน้าที่กู้ชีพของเทศบาลตำบลแม่นะ จะต้องนำผู้ป่วยเป็นหญิงอายุ 90 ปี ไปส่งโรงพยาบาลเชียงดาว หลังไฟฟ้าในหมู่บ้านดับ แล้วผู้ป่วยต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ

เวลาไม่คอยใคร เจ้าหน้าที่เลยตัดสินใจ อุ้มผู้ป่วยเดินข้ามดินไหลที่ปิดทับทาง ไปขึ้นรถกู้ภัยที่มารออยู่อีกฝั่ง ส่งโรงพยาบาลอย่างปลอดภัย

หล่มสักเสี่ยงถูกน้ำหลาก รอบที่ 5 
อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ แม้ว่าในตัวอำเภอที่เป็นย่านเศรษฐกิจ ระดับน้ำจะลดลงจนเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว แต่ในพื้นที่รอบนอกเช่น ตำบลวัดป่า น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน เคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงไปยังที่ปลอดภัย และแจกอาหารให้ผู้ประสบภัย

และฝนที่ยังตกในพื้นที่ ทำให้เทศบาลเมืองหล่มสัก ต้องประกาศเตือนประชาชนเฝ้าระวังน้ำในแม่น้ำป่าสักเพิ่มขึ้นสูง อาจหลากเข้าท่วมเป็นรอบที่ 5

ชาวบ้านเดือดร้อนน้ำท่วมขังเริ่มเน่าเสีย
ขยับลงภาคกลาง จังหวัดสิงบุรี ชาวบ้านพื้นที่ ตำบลชีน้ำร้าย อำเภออินทร์บุรี ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังเริ่มเน่าเสีย ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ต้องนำเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำเน่าเสีย พื้นหมู่ 1, หมู่ 2, หมู่ 3 และหมู่ 4 ที่ถูกน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้าน

นางนันทา ชัยศิริ ชาวบ้าน บอกว่า ตอนนี้เข้าออกบ้านก็ลำบาก น้ำประปาก็ไม่ใหล น้ำก็เน่าเหม็น ยุงก็เยอะ

เขื่อนพระราม 6 ปักธงแดง เตือนภัยน้ำขั้นวิกฤต
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี ระบายน้ำ 600.41 ลบ.ม./วินาที  ทำให้เขื่อนพระราม 6 ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ ระบายน้ำเพิ่มเป็น 552.24 ลบ.ม./วินาที เจ้าหน้าที่ต้องปักธงสีแดง แจ้งเตือนเข้าสู่ขั้นวิกฤต พื้นที่ท้ายเขื่อนพระราม 6 ชุมชนวัดสะตือ และตลาดเทศบาลตำบลท่าเรือ อำเภอท่าเรือ, อำเภอนครหลวงท้ายน้ำของ, อำเภอพระนครศรีอยุธยา, อำเภอบางปะอิน และอำเภอบางไทร ระวังน้ำท่วม

ด้านพ่อค้าตลาดสดท่าเรือ บอกว่า ออกมาเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพราะยังกังวลใจ หวั่นว่าน้ำท่วมตลาดสดแบบฉับพลัน เหมือนก่อนหน้านี้ จนไม่ทันเก็บของ

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาเรื่อง พายุรากาซา ฉบับที่ 13 (261/2568) ฉบับสุดท้ายของเหตุการณ์นี้

พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีแนวโน้มจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่เสริมลงมาปกคลุม ช่วงวันที่ 25-26 กันยายน 68 พายุนี้ไม่เคลื่อนสู่ประเทศไทย

จากอิทธิพลของพายุรากาซา ส่งผลให้ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน รวมถึงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง

ช่วงวันที่ 25-26 ก.ย. 68 ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่

อัปเดต เส้นทางพายุบัวลอย
พายุโซนร้อนบัวลอย (BUALOI) เช้าวันที่ 25 กันยายน ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่นแล้ว มีศูนย์กลางอยู่ทางตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์

คาดว่าจะเคลื่อนผ่านทางตอนกลางของประเทศฟิลิปปินส์ ลงสู่ทะเลจีนใต้  วันที่ 26-27 กันยายน 68 และจะเคลื่อนทางตะวันตกเฉียงเหนือ ไปทางอ่าวตังเกี๋ย ยังต้องติดตามและประเมินเป็นระยะๆ ทิศทางยังมีการเปลี่ยนแปลงช่วง 28-29 กันยายน 68