หนทางยังอีกยาวไกล อัปเดตอาการลูกช้าง กายภาพบำบัดด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ ”ข้าวต้ม” ใช้ขาได้นิดหน่อย เรียนรู้ที่จะลุกยืน ยังต้องเฝ้าระวังเรื่องภาวะแทรกซ้อน
อัปเดตอาการ ลูกช้าง ข้าวต้ม วันนี้ (26 ก.ย.68) โรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ซึ่งร่วมส่งทีมสัตวแพทย์มาช่วยดูแลรักษาอาการของน้องข้าวต้ม ลูกช้างป่าพลัดหลงตัวล่าสุด เนื่องจากลูกช้างเอ็นขาผิดปกติตั้งแต่กำเนิด แม่และโขลงช้างเดินหนี หลังทำกาญภาพบำบัด ลูกช้างข้าวต้ม เริ่มรู้จักวิธีการลุกยืน และใช้ขาได้นิดหน่อย จึงพยายามลุกยืน แข็งแรงได้ขนาดนี้ต้องขอบคุณ “ทีมหน้างาน” กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่อดหลับอดนอน “ทีมล่วงหน้า” หน่วยสัตว์ป่า ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน ที่วินิจฉัยได้อย่างว่องไว และน้ำแดงเสริมพลัง (เลือดจากแม่ช้าง) จากวังช้างอยุธยา แลเพนียด จึงทำให้ทีมกายภาพจาก ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำงานกันง่ายมาก ๆ
อย่างไรก็ตาม หนทางยังอีกยาวไกล เราจะสู้ไปด้วยกัน ช่วยช้างไปด้วยกัน
ทางด้านหมอล็อต นสพ.ภัทรพล มณีอ่อน เปิดเผยภาพทีมงานรุมช่วยเหลือลูกช้างข้าวต้ม กันหลายคน เพราะต้องสลับกันเล่านิทาน“ หนึ่งในกระบวนการกายภาพ ด้วยเครื่องอัลตราซาวด์กายภาพบำบัด (Therapeutic Ultrasound) คืออุปกรณ์ที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูง (1-3 MHz) เพื่อสร้างความร้อนลึกในเนื้อเยื่อ หรือกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมโดยไม่ต้องใช้ความร้อน
ประโยชน์หลักคือช่วยลดอาการปวด ลดการอักเสบของเนื้อเยื่อ เพิ่มความยืดหยุ่นของข้อต่อ ลดอาการบวม เร่งการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และคลายความเกร็งตัวของกล้ามเนื้อและพังผืด. เครื่องอัลตราซาวด์มีการทำงาน 2 แบบ คือแบบ Continuous mode (ให้ความร้อน) และ Pulsed mode (ไม่ให้ความร้อน) เพื่อรักษาอาการทั้งเรื้อรังและเฉียบพลัน ของลูกช้างข้าวต้ม ขณะนี้ทีมเจ้าหน้าที่ยังกังวลเรื่องภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ
สำหรับลูกช้างข้าวต้ม มีความผิดปกติด้านการพัฒนาโครงสร้าง ส่วนเส้นเอ็นขาหน้า ทีมแพทย์ได้ขอความร่วมมือและคำแนะนำด้านกายภาพบำบัด จาก รพ.ช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย Elephant Hospital, TECC ผู้ที่จะนำทีมอาจารย์จากคณะเทคนิคการแพทย์ และคณะสัตวแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่ มาให้คำแนะนำด้านการกายภาพบำบัด โดยทีมนี้ เป็นทีมเดียวกันกับที่วางโปรแกรมกายภาพบำบัด ให้พลายศักดิ์สุรินทร์ มีผลงานเชิงประจักษ์
