เสียงปืนเล็กและเสียงระเบิดของประเทศกัมพูชา ที่สร้างสถานการณ์ยั่วยุในพื้นที่ตะเข็บชายแดน ใกล้ปราสาทตาควาย - ปราสาทตาเมือนธม ทำให้ชาวบ้านเตรียมความพร้อมอพยพทุกครอบครัว พร้อมสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารหากมีปะทะครั้งที่ 2
โดยวันนี้ (26 ก.ย. 68) ทีมข่าวช่อง 7HD ได้ลงพื้นที่สำรวจ บริเวณหมูบ้านไทยนิยม ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้กับปราสาทตาควาย เพียง 6 กิโลเมตร
พบว่า ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตกันตามปกติ แต่ต้องอยู่อย่างหวาดระแวง เพราะเสียงปืนจากกัมพูชาที่ยิงเช็กแนวปฏิบัติการ ส่งสัญญาณปะทะรอบที่ 2 ทำ ให้ชาวบ้านต้องเตรียมความพร้อมอพยพหากเกิดการปะทะ
เช่นเดียวกับครอบครัวของนางวันเพ็ญ จงดี อายุ 60 ปี และนายอุดม กกรัมย์ อายุ 57 ปี คู่สามีภรรยาชาวบ้านในพื้นที่ ที่เตรียมข้าวของ เช่นที่นอน อาหาร และรถวีลแชร์ขึ้นท้ายรถกระบะ เตรียมความพร้อมอพยพ เนื่องจากที่บ้านมี พ่อ อายุ 93 ปี และแม่ อายุ 89 ปี ซึ่งทั้งสองท่านเป็นผู้ป่วยติดเตียง จึงต้องเตรียมความพร้อมหากเกิดเหตุจะได้อพยพได้ทันเวลา
โดยคู่สามีภรรยา เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ที่ทหารกัมพูชา ยิงยั่วยุตามแนวชายแดน ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา ทำให้เกิดความกังวลว่าจะมีการปะทะรอบที่ 2 เกิดขึ้น จึงทำการขนข้าวของขึ้นท้ายรถกระบะเตรียมความพร้อมอพยพ ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา เนื่องจากที่บ้านมี คุณพ่ออายุ 93 ปี และคุณแม่อายุ 89 ปี ซึ่งทั้งสองเป็นผู้ป่วยติดเตียง อพยพลำบาก จึงต้องเตรียมความพร้อมไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ หากผู้นำชุมชนประกาศให้อพยพเมื่อไรก็ออกไปทันที
ส่วนตัวอยากให้ทหารตอบโต้ และสนับสนุนปฏิบัติการทหารให้ปะทะรอบที่ 2 วันนี้เลยยิ่งดี เพราะไม่อยากใช้ชีวิตด้วยความวิตกกังวลแบบนี้ เพราะทุกวันนี้แค่เสียงฟ้าร้อง หรือปิดถังน้ำแข็งเสียงดังก็ตกใจแล้ว
"จะออกไปดูสวนยาง-ไร่มัน ก็ไม่กล้าออกไปนาน กลัวว่ามีปะทะแล้วกลับมาอพยพพ่อกับแม่ออกจากบ้านไม่ทัน และที่สำคัญอยากได้ปราสาทตาควายซึ่งเป็นของเรากลับคืนมา ต่อให้ต้องอพยพออกไปจากบ้านก็พร้อม"
อย่างไรก็ตาม คนพื้นที่ เข้าใจการปฎิบัติหน้าที่ของทหารที่ยังไม่ตอบโต้ เพราะมีหลายปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง โดยเฉพาะความปลอดภัยของคนในพื้นที่ เราที่อยู่แนวหลังก็ได้แต่เอาใจช่วย และเป็นกำลังใจให้ตลอดเวลา
ทั้งนี้ อยากขอพรรัฐบาลชุดใหม่ อย่าเพิ่งทำอย่างอื่น เอาเรื่องชายแดนให้เสร็จสิ้นก่อน