ไทยอะลุ่มอล่วยเกินไป ปล่อยเขมรบุกรุกที่ทำกินชายแดนสุรินทร์นับร้อยไร่

ไทยอะลุ่มอล่วยเกินไป ปล่อยเขมรบุกรุกที่ทำกินชายแดนสุรินทร์นับร้อยไร่

View icon 148
วันที่ 27 ก.ย. 2568 | 15.23 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (27 ก.ย. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับชาวกัมพูชารุกแผ่นดินไทยเข้ามาปลูกสวนมะม่วงแก้วขมิ้น ต้นกล้วย มันสำปะหลัง และปลูกสร้างบ้านตามสวนมะม่วง มานานกว่า 10 ปี โดยเฉพาะที่บริเวณช่องระยี ตรงข้ามหมู่บ้านสกล ต.ตะเคียน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ โดยมีการรุกล้ำเข้ามากว่า 500 เมตร กินพื้นที่บริเวณกว้างนับร้อยไร่ รวมทั้งบุกรุกตลอดแนวชายแดนอีกหลายจุดเป็นช่วง ๆ มีระยะลุกล้ำเข้ามาไม่เท่ากัน แล้วแต่สภาพพื้นที่ ไปจนถึงหลังบ่อนกาสิโน ใกล้ประตูด่านจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง รวมระยะทางตลอดแนวชายแดนกว่า 7 กิโลเมตร

แม้ที่ผ่านมา ฝ่ายปกครอง รวมทั้งหน่วยงานความมั่นคง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปเจรจากับนายอำเภอกรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา มาแล้วเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งรับปากว่าจะตัดต้นมะม่วง แต่ขอเก็บผลผลิตก่อน จากนั้นก็ไม่มีการทำตามข้อตกลงยังคงปล่อยให้ชาวกัมพูชาเข้ามารุกล้ำอย่างต่อเนื่อง และทราบข้อมูลอีกว่า ชาวบ้านที่มาบุกล้วนเป็นครอบครัวและญาติพี่น้องของทหารกัมพูชาอีกด้วย

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้รับคลิปวิดีโอและภาพนิ่ง จากเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นภาพที่เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2564 ขณะที่ นายเรืองยศ ลิ้มนุกูลเจริญ อดีตนายอำเภอกาบเชิง ในขณะนั้น ได้ลงพื้นที่บริเวณช่องระยีดังกล่าว พร้อมกับเจ้าหน้าที่ ร้อย อส.อ.กาบเชิง ที่ 6 ,หน่วยความมั่นคงในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ประมาณ 20 นาย เพื่อเข้าตรวจสอบการรุกล้ำของชาวกัมพูชา พบสวนมะม่วงแก้วขมิ้น และต้นกล้วย รวมทั้งสร้างบ้านเรื่อนอาศัยอยู่ในพื้นที่สวนมะม่วง แบบครอบครัวใครสวนมัน และพบการแผ้วถาง เผาป่า เพื่อรุกพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 100 ไร่ โดยต้นมะม่วงที่พบ ปลูกเป็นสวนขณะนั้น น่าจะมีอายุประมาณ 3-4 ปี แล้ว และปัจจุบันเวลาล่วงเลยมาอีก 4 ปี คาดว่าต้นมะม่วงจะมีขนาดใหญ่ขึ้นหลายเท่า และคาดว่าจะมีการบุกรุกมากขึ้นต่อเนื่องอีกด้วย

โดยการลงพื้นที่ครั้งนั้น เจ้าน้าที่พบหญิงชาวกัมพูชา 2-3 คน อ้างว่าเป็นลูกจ้าง พร้อมพบกับนายอำเภอกรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย พร้อมทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชา เพื่อเจรจาผลักดันและทำลายต้นมะม่วง แต่ทางกัมพูชาขอเก็บผลิตก่อน แต่ก็ยังไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงเช่นเดิม ปล่อยให้มีการรุกล้ำมาจนถึงปัจจุบัน แม้เจ้าหน้าที่ไทยจะฉีดยาฆ่าหญ้าทำลายต้นมะม่วงบางส่วนแล้วก็ตาม แต่ก็มีการลักลอบเข้ามาปลูกต่อเนื่อง โดยไม่สนใจเจ้าหน้าที่ไทย

อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวรายงานว่า ทางการไทยมีการอะลุ่มอล่วยกับกัมพูชาเกินไป จึงได้ใจ ไม่สนในข้อตกลง และรุกล้ำมาโดยตลอด รวมทั้งทราบข้อมูลอีกว่า สมเด็จฮุน เซน ได้บอกให้ทหารกัมพูชาที่อยู่ตามแนวชายแดน ซึ่งมีเงินเดือนน้อย ให้สามารถรุกล้ำทำมาหากินได้เลย โดยให้ครอบครัวของทหารเข้ามาครอบครอง มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ประชาชนชาวกัมพูชาเป็นกันชนแนวชายแดนอีกด้วย