สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ชาวบ้านพื้นที่ชายแดนจังหวัดสุรินทร์ เร่งอพยพ หลังมีข่าวทหารกัมพูชา พยายามยั่วยุทหารไทย หวังให้เกิดการปะทะ
ชาวบ้าน ยอมเจ็บแต่จบ
ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอกาบเชิง และอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อพยพออกจากพื้นที่กันหลายหมู่บ้านแล้ว หลังจากไม่ไว้วางใจในสถานการณ์ชายแดน ที่ยิ่งตึงเครียด โดยชาวบ้านไปพักอาศัยที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ยังไม่เปิดเป็นทางการ
และมี สส.สุรินทร์ พรรคภูมิใจไทย นำเครื่องอุปโภคบริโภค และข้าวกล่องไปเยี่ยมผู้อพยพจำนวน 104 คน ส่วนมากจะเป็นเด็ก ผู้หญิง คนชรา และผู้ป่วยติดเตียง
นายวิโรจน์ จำนงค์ อดีตทหารพรานนาวิกโยธิน จังหวัดจันทบุรี บอกว่า พอได้ยินข่าวกัมพูชายิงยั่วยุทหารไทย รู้สึกกังวล ไม่อยากอยู่บ้าน จึงอพยพครอบครัวไปอยู่ห่างชายแดนมากที่สุด ส่วนตัวอยากให้ยิงเร็ว ๆ ให้จบ ๆ เพราะไม่ได้ทำมาหากินมา 2 เดือนแล้ว เงินส่งงวดรถก็ไม่มี อยากให้รัฐบาลเอาจริงสักที
ชาวบ้านน้ำยืน เริ่มอพยพ
ขณะที่ชาวบ้าน อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เร่งอพยพครอบครัวไปยังที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศภายในหมู่บ้านเงียบเหงา เหลือแค่ชาวบ้านบางส่วนที่ไม่อพยพ เฝ้ารอฟังข่าวอย่างใกล้ชิด โดยเก็บข้าวของไว้ในกระเป๋า เตรียมความพร้อมทุกเมื่อหากมีคำสั่ง
ชาวบ้านมองว่า การกระทำของกัมพูชา เมื่อวานเป็นการยั่วยุ อยากให้ตอบโต้ทางการทหารในเร็ววัน เพราะอีกไม่นานจะเข้าสู่ฤดูเกี่ยวข้าวแล้ว หากปล่อยให้ยืดเยื้อกว่านี้ ความเสียหายจะทวีคูณ
ขายวัว ควาย หนีปะทะรอบ 2
ชาวบ้านชายแดน จังหวัดบุรีรัมย์ ที่เคยมีประสบการณ์ถูกกระสุนปืนให้ BM-21 ตกใส่บ้าน ได้ตัดใจขายวัว-ควาย เพียงตัวละ 15,000 บาท จากปกติขายได้ตัวละ 30,000-40,000 บาท เพราะกลัวว่า ถ้าเกิดการต่อสู้อีกครั้ง จะได้ไม่ต้องห่วงสัตว์เลี้ยง คนก็เตรียมอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย
ชาวบ้าน บอกว่า ฝากไปถึงนายกฯ คนใหม่ อยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาชายแดนจริงจัง ขอแบบ "เจ็บแต่จบ" เพราะถ้าไม่เด็ดขาด ก็ไม่รู้ว่าชาวบ้านต้องเดือดร้อนไปอีกนานแค่ไหน แต่หากทหารจะรบ รัฐบาลไม่ควรแทรกแซงให้เสียระบบ ชาวบ้านชายแดน อยากกลับมาทำมาหากินตามปรกติ