ก้อนหินคล้ายเกล็ดงู ริมลำน้ำเข็ก ที่ เขาค้อ เหมือนกับที่ถ้ำนาคา ที่ จ.บึงกาฬ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจ พบก่อนถึงจุดพบหินดังกล่าว ประมาณ 100 เมตร จะมีเวิ้งน้ำ เป็นลักษณะน้ำวนด้วย
วันที่ 27 ก.ย.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีผู้ใช้แอปพลิเคชัน Tiktok ชื่อ “ night141414 Good night” โพสต์คลิปวิดีโอ เป็นภาพก้อนหิน ที่มีลักษณะคล้ายเกล็ดงูเหมือนถ้ำนาคา ที่ จ.บึงกาฬ โดยระบุว่าพบที่ลำน้ำเข็ก ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ปรากฏว่ามีผู้เข้ามาชมจำนวนมาก โดยเฉพาะในติ๊กต๊อกที่มีผู้เข้าชมกว่า 16.9 ล้าน พร้อมกับมีผู้แสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย
ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบพบว่า จุดดังกล่าวอยู่ริมลำน้ำเข็กในเขตอุทยานแห่งชาติเขาค้อ พื้นที่ติดต่อระหว่างจังหวัดเพชรบูรณ์กับจังหวัดพิษณุโลก โดยจะต้องเดินจากบริเวณใต้สะพานเชื่อมเพชรบูรณ์ – พิษณุโลก เลาะไปตามริมฝั่งลำน้ำเข็ก ซึ่งเป็นทางเดินที่ชาวบ้านใช้เดิน เพื่อไปตกปลาและหาของป่า ระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร แต่ก่อนที่จะถึงจุดพบหินดังกล่าว ประมาณ 100 เมตร จะมีเวิ้งน้ำ ที่มีลักษณะเป็นน้ำวนดูแปลกตาและน่าพิศวงมาก และเมื่อมองไปฝั่งตรงข้ามจะพบกับหินที่มีเกล็ด สีดำเมื่อมสะท้อนกับแสงมองคล้ายหัวงูขนาดใหญ่ ลักษณะก้มหัวลงไปในน้ำเล็กน้อย และนอกจากนั้นก็ยังมีแนวหินยาวมีเกล็ดสีดำมองดูคล้ายกับลำตัวงูทอดยาวไปตามลำน้ำอีกด้วย
นายเชาวลิต อายุ 28 ปี ชาวบ้านขอนหาด ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ เปิดเผยว่าตนมีความเชื่อและศรัทธาในตัวองค์พญานาคอยู่แล้ว และเคยได้ไปเที่ยวที่ถ้ำนาคา ในอุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดบึงกาฬ และเมื่อได้เห็นในโซเชียลที่แชร์กันมาอย่างมากมายว่าพบหินคล้ายหัวงูใหญ่ จึงได้เดินทางมาดู เมื่อมาเห็นกับขนลุก เพราะคล้ายกันมาก และตนก็เชื่อว่าเป็นร่างขององค์พญานาคอย่างแน่นอน รวมทั้งบริเวณใกล้เคียงยังมีวังน้ำวนยิ่งทำให้เชื่อว่าบริเวณแห่งนี้เป็นที่อยู่ขององค์พญานาคอย่างแน่นอน แต่เนื่องจากในวันนี้ปริมาณน้ำค่อนข้างมาก และมีต้นไม้ปกคลุมจึงอาจจะมองไม่ชัดเจน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เส้นทางการเดินในวันนี้ค่อนข้างลำบาก ถึงแม้จะเป็นทางเดินของชาวบ้าน แต่เนื่องจากมีฝนตกลงมา จึงทำให้ทางเดินเละและลื่น ประกอบกับขณะที่กำลังถ่ายทำอยู่นั้น น้ำในลำน้ำเข็กได้มีสีขุ่นเข้ม มีฟอง และเพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านแจ้งว่าน่าจะเป็นน้ำป่าที่ไหลจากอำเภอนครไทย จึงต้องรีบออกจากพื้นที่โดยเร็ว เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย สำหรับผู้ที่จะมาดูแนะนำให้สอบถามคนในพื้นที่ หรือหากเป็นไปได้ควรเป็นฤดูหนาวหรือฤดูแล้งจะปลอดภัยมากกว่า
