นายกฯ ฮุน มาเนต ของกัมพูชา ยืนยัน รัฐบาลกัมพูชาจะไม่ทอดทิ้งทหารกัมพูชา 18 นาย ที่ขณะนี้ถูกฝ่ายไทยควบคุมตัวอยู่ และย้ำว่ากำลังทำทุกอย่าง เพื่อให้ทหารเหล่านี้ได้รับการปล่อยตัวอย่างปลอดภัยและกลับมาอยู่กับครอบครัว
วันนี้ (29 ก.ย. 68) นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต แห่งกัมพูชา กล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีกัมพูชา เมื่อวันศุกร์ (26 ก.ย. 68) ที่ผ่านมา ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ทอดทิ้งทหารกัมพูชา 18 นาย ที่ขณะนี้ถูกฝ่ายไทยควบคุมตัวไว้อยู่ โดยย้ำถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของรัฐบาลกัมพูชาที่มีต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และการแก้ไขปัญหาชายแดนโดยสันติ
โดยทหารกัมพูชาทั้ง 18 นาย ถูกฝ่ายไทยควบคุมตัวไปในจังหวัดพระวิหาร เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ซึ่งเกิดขึ้นเพียง 1 วันหลังจากที่กัมพูชาและไทยได้ลงนามข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ที่เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย
โดยการหยุดยิงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเกิดการปะทะกันบริเวณชายแดนอย่างรุนแรงเป็นเวลา 5 วัน และความพยายามไกล่เกลี่ยโดยบุคคลที่ 3 จนในที่สุด ไทย-กัมพูชา ก็ได้ตกลงหยุดยิงโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไขในการประชุมระดับสูง ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม แห่งของมาเลเซีย เป็นประธาน และได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาและจีน
นอกจากนี้ “ฮุน มาเนต” ยังกล่าวว่า เมื่อพิจารณาจากประวัติศาสตร์ของกัมพูชาแล้วนั้นแสดงให้เห็นว่าความขัดแย้งไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยความรุนแรงอีกต่อไป การเจรจาโดยสันตินั้นเป็นหนทางเดียวที่จะนำไปสู่ทางออกที่ยั่งยืน
ขณะที่ “คิน เพีย” ผู้อำนวยการสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ราชวิทยาลัยแห่งกัมพูชา กล่าวเมื่อวานนี้ว่า ทหารกัมพูชา 18 นาย ถูกกองทัพไทยควบคุมตัวไปอย่างผิดกฎหมาย และตอนนี้ถูกจับเป็นตัวประกัน ตอนนี้ชาวกัมพูชาทั้งในและต่างประเทศยังคงเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ และประเทศไทยปล่อยตัวพวกเขา ทางรัฐบาล กองทัพ กระทรวงกลาโหม และประชาชนชาวกัมพูชา ทั้งในและต่างประเทศ ไม่ได้ลืมทหารผู้กล้าหาญเหล่านี้ และยังคงสามัคคีกันเรียกร้องให้ทหารทั้ง 18 นาย เดินทางกลับประเทศและกลับมาอยู่กับครอบครัวอย่างปลอดภัย
ทางกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ก็ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า กัมพูชาเรียกร้องอย่างเร่งด่วนให้ไทยปล่อยทหาร 18 นาย โดยเร็วที่สุด เพื่อที่พวกเขาจะได้กลับไปอยู่กับครอบครัวอย่างปลอดภัยตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ขณะนี้ทางรัฐบาลกัมพูชายังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ช่องทางการทูตและกฎหมายที่มีอยู่ทั้งหมดเพื่อให้แน่ใจว่าทหารกัมพูชาจะกลับถึงประเทศอย่างปลอดภัยและรวดเร็ว