เกิดเหตุคนร้ายกราดยิงใส่ผู้คนและเผาโบสถ์นิกายมอร์มอน ในรัฐมิชิแกน สหรัฐฯ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน บาดเจ็บอีก 8 คน
หลังเพิ่งเกิดเหตุคนร้ายกราดยิงร้านอาหารบริเวณท่าเรือเมืองเซาต์พอร์ต รัฐนอร์ทแคโรไลนา เพียง 1 วัน วานนี้ (28 ก.ย.) เกิดเหตุกราดยิงในสหรัฐฯ อีกแล้ว ซึ่งเหตุกราดยิงครั้งล่าสุดนี้ เกิดขึ้นที่โบสถ์คริสต์นิกายมอร์มอน ในเมืองแกรนด์แบลงก์ (Grand Blanc) รัฐมิชิแกน โดยคนร้ายเป็นอดีตทหารนาวิกโยธิน อายุ 40 ปี ขับรถพุ่งชนประตูด้านหน้าโบสถ์ ในช่วงที่มีคนนับร้อยอยู่ด้านใน แล้วเปิดฉากใช้ปืนไรเฟิลกราดยิง ก่อนจุดไฟเผาโบสต์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน และบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 8 คน
หลังจากตำรวจ 2 นาย ที่ได้รับแจ้งเหตุและไปถึงจุดเกิดเหตุ ได้เกิดการยิงปะทะกัน โดยคนร้ายถูกยิงเสียชีวิตบริเวณลานจอดรถ ทั้งนี้ตำรวจเผยว่าอาจยังมีผู้สูญหายจำนวนหนึ่ง เพราะเพลิงไหม้ทำให้ยังไม่สามารถเคลียร์พื้นที่ได้ ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุยังอยู่ระหว่างการสอบสวน
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ โพสต์ข้อความแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตและครอบครัว และประกาศว่า เหตุรุนแรงต่อเนื่องในสหรัฐฯ ต้องยุติทันที
