ที่หอประชุม ที่ว่าการอำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค กับถุงพระราชทานสำหรับเด็ก จำนวน 2,535 ชุด ไปมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
จากนั้น ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัย 3 ครอบครัว ในพื้นที่หมู่ที่ 6 ตำบลพิกุล อำเภอชุมแสง โดยได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวผู้ประสบอุทกภัยได้รับทราบ
จังหวัดนครสวรรค์ เกิดอุทกภัยจากอิทธิพลของพายุวิภา, คาจิกิ และหนองฟ้า ประกอบกับความกดอากาศต่ำแผ่ปกคลุมทำให้เกิดฝนตกสะสมโดยเฉพาะในพื้นที่ราบเชิงเขาด้านติดกับอำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำล้นตลิ่ง และเป็นพื้นที่ที่ต้องรับน้ำจากแม่น้ำยม และแม่น้ำน่าน รวมถึงมวลน้ำจากจังหวัดพิจิตร และพิษณุโลก ทั้งนี้พื้นที่อำเภอชุมแสงเป็นพื้นที่ลุ่ม จึงทำให้บ้านเรือนที่อยู่ริมน้ำ ทรัพย์สิน สถานที่ราชการ วัด ถนน และพื้นที่การเกษตร ได้รับความเสียหาย 5 อำเภอ 29 ตำบล 156 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ 3,457 ครัวเรือน
ในการนี้ องคมนตรี ร่วมประชุมเพื่อรับฟังสรุปการเกิดอุทกภัยในพื้นที่ ซึ่งได้ให้แต่ละหน่วยงานน้อมนำพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการให้ความช่วยเหลือราษฎรไปปรับเป็นแผนแม่บทเพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ทั่วถึง ไม่ซ้ำซ้อน และให้เร่งดำเนินการโดยเร็ว ประสานความร่วมมือแต่ละหน่วยงานให้การช่วยเหลือทั้งระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงให้ข้อแนะนำในการทำแผนรองรับการเกิดอุทกภัยเพื่อให้ประชาชนได้มีอาชีพมีรายได้เสริมในฤดูน้ำหลาก โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ให้ดำเนินการปรับปรุงพื้นที่รอบบึงบอระเพ็ดโดยให้ขุดลอกเพิ่มความลึกเพื่อรับมวลน้ำที่หลากมาในฤดูฝน รวมทั้งบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว