สนามข่าว 7 สี - พลตรี วินธัย เผยทหารกัมพูชาสร้างสถานการณ์ยั่วยุ หวังให้ไทยตอบโต้ด้วยอาวุธ จากนั้นก็เก็บหลักฐานไปบิดเบือน ดังนั้นไทยต้องระวัง ไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือ ส่วนเหตุยิงยั่วยุ เมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา ทหารไทยก็เดินทางไปเผชิญหน้ากับทหารกัมพูชา ถามหาสาเหตุ ได้รับคำตอบว่าอย่างไร ไปฟัง
ทหารกัมพูชามึน ปฏิเสธยิงยั่วยุที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี
ทหารไทย เดินทางไปถามจากปากกองทัพกัมพูชา ที่ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ถึงเหตุการณ์ยิงยั่วยุ เมื่อวันที่ 27 กันยายน ฝ่ายไทยได้ยินเสียงระเบิดในฝั่งไทย
แต่ทหารกัมพูชา ปฏิเสธว่าระเบิดไม่ได้ถูกยิงออกมาจากกัมพูชา และบอกว่าได้ยินเสียงปืนดังมาจากฝั่งไทยอย่างเดียว ทหารไทยยืนยันหนักแน่น เป็นไปไม่ได้ที่ทหารไทยจะยิงใส่ตัวเอง
แต่หลักฐานจากทหารของกัมพูชาที่ถ่ายเอาไว้ ชัดเจนว่ามีการยิงปืนยั่วยุเข้ามาในฝั่งไทย จริง ขณะเดียวกันทหารกัมพูชายังเดินหน้าฝึกไม่พัก เพื่อข่มขวัญทหารไทยไม่เลิก
ทหารกัมพูชา ซ้อมรบข่มขวัญทหารไทย
ทหารกัมพูชา ซ้อมยุทโธปกรณ์ ยิงปืนใหญ่ ปืนรถถังรัว ๆ เพื่อข่มขวัญทหารไทย ตามพิกัดระบุสถานที่ฝึกซ้อมในจังหวัดสตึงแตรง และจังหวัดมณฑลคีรี ของกัมพูชา
คลิปนี้โพสต์ไม่นาน คลิปก็ถูกลบ ถือว่าเป็นหลักฐานว่า กองทัพกัมพูชาไม่หยุดรวบรวมกำลังพล และฝึกฝน ไม่เพียงแค่ทางบก ทหารเรือกัมพูชายังโชว์เรือรบ และกองกำลังทหาร ระบุว่า "นี่คือเรือรบของกัมพูชาไว้สู้กับศัตรู"
ทบ.แจง ตอบโต้กัมพูชาต้องรอบคอบ
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงสถานการณ์ที่ทหารกัมพูชา จัดกำลังพลตามแนวชายแดน ละเมิดข้อตกลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งวางทุ่นระเบิด ใช้อาวุธยั่วยุ ใช้โดรนลาดตระเวน มีเป้าหมายชัดเจน เพื่อให้ไทยตอบโต้ด้วยอาวุธ จากนั้นก็เก็บหลักฐานไปบิดเบือน จัดฉากว่าตนเองถูกระทำ ตีความให้ไทยเป็นผู้รุกราน ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
กองทัพไทย ต้องระมัดระวังในการตอบโต้ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือ นอกจากทหารยึดมั่นปกป้องอธิปไตย ก็ใช้การทูต สื่อสารที่ชัดเจน และเป็นระบบ ทั้งต่อประชาชนภายในประเทศ และต่อประชาคมระหว่างประเทศ
ขอให้ประชาชนมั่นใจ กองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 เฝ้าระวัง เตรียมพร้อมปฏิบัติหน้าที่แนวหน้า และรักษาความปลอดภัยให้ประชาชนแนวหลัง ส่วนการตอบโต้ ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบในทุกมิติ หากดำเนินการในห้วงไม่เหมาะสม ก็จะส่งผลต่อผลลัพธ์
ขอบคุณภาพจาก :Tiktok _kim_029, Facebook Army Military Force