ระวังผิด ม. 157 ชงเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษซ้ำ

ระวังผิด ม. 157 ชงเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษซ้ำ

View icon 138
วันที่ 30 ก.ย. 2568 | 09.29 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
กฎหมายเปิดช่องให้ทำได้จริงหรือ ทนายเชาว์ เตือนชงเรื่องทักษิณขอพระราชทานอภัยโทษ ครั้งที่ 2 เสี่ยงผิด 157  ป่วยทิพย์ จนถูกศาลฯ สั่งให้กลับไปรับโทษ ควรสำนึก แต่ยังดิ้นรนทำเรื่องไม่สมควรซ้ำแล้วซ้ำเล่า

วันนี้ (30 ก.ย.38) นายเชาว์ มีขวด ให้ความเห็นในประเด็นข้อกฎหมายกรณีนายทักษิณ ชินวัตร ขอพระราชทานอภัยโทษ ผ่านเพจเฟซบุ๊กรู้ทันกฎหมายกับทนายเชาว์ มีขวด โดยระบุว่า ดื้อดึงขอพระราชทานอภัยโทษซ้ำ ใครชงเรื่องระวัง 157 เมื่อมีข้อเท็จจริงยืนยันว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะราย เป็นครั้งที่ 2 หลังเข้ามารับโทษในเรือนจำ ก็ต้องถามตรง ๆ ว่า กฎหมายเปิดช่องให้ทำได้จริงหรือ

“อย่าลืมว่า นายทักษิณเคยขอพระราชทานอภัยโทษไปแล้ว และได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ลดโทษจาก 8 ปี เหลือ 1 ปี โทษที่ได้รับอยู่ จึงไม่ใช่โทษตามคำพิพากษาเดิม แต่เป็นโทษที่เกิดขึ้นจากพระบรมราชโองการโดยตรง”

ทนายเชาว์ ระบุด้วยว่า มาตรา 259 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ระบุชัดว่า ผู้ที่ “ต้องคำพิพากษาให้รับโทษ” จึงจะสามารถยื่นขออภัยโทษได้ ความหมาย คือ โทษที่ถูกลดโดยพระบรมราชโองการ แล้ว ไม่ใช่โทษตามคำพิพากษาอีกต่อไปดังนั้นการขอพระราชทานอภัยโทษอีกครั้ง จึงสุ่มเสี่ยงไม่เข้าเกณฑ์กฎหมาย และยิ่งไปกว่านั้น มาตรา 261 กำหนดหน้าที่ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมต้องถวายความเห็นประกอบ หากยังดื้อดึงถวาย ทั้งที่รู้ว่าขัดหลักเกณฑ์ ก็อาจถูกตีความว่า ใช้อำนาจโดยมิชอบ ขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมาย และเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 157

“นายทักษิณ เคยได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานอภัยลดโทษจาก 8 ปี เหลือ 1 ปี แต่กลับหนีคุกด้วยการ “ป่วยทิพย์” สุดท้ายศาลฯ สั่งให้กลับไปรับโทษ ควรสำนึกรับโทษ แต่ยังดิ้นรนยื่นขอพระราชทานอภัยโทษซ้ำ นี่คือการทำเรื่องไม่สมควรซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหมือนที่ทำผิดซ้ำซากและไม่เคยสำนึกอย่างแท้จริง จนต้องลงเอยอย่างที่เห็น อภัยโทษมีไว้ให้คนสำนึก ไม่ใช่บัตรผ่านพ้นผิดของคนที่ไม่เคารพคำพิพากษา“

ข่าวที่เกี่ยวข้อง