ห้องข่าวภาคเที่ยง - กองทัพเรือ ยืนยัน บ้าน 3 หลังที่ล้ำเข้ามาในเส้นเขตแดนที่ไทยกำหนดไว้ที่ชายแดนจังหวัดตราด ได้รื้อถอนหมดสภาพการใช้งาน เตรียมเดินหน้าที่ในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป หวังกลไก JBC เร่งคุยกำหนดเขตแดนให้ชัดเจน
ทร.เดินหน้ารื้อถอน “สิ่งปลูกสร้าง” ยึดที่ไทย
พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงกรณีบ้าน 3 หลัง ที่มีการรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ที่ไทยได้กำหนดไว้ที่ตำบลชำราก จังหวัดตราด ยืนยันว่ามีการรื้อถอน และหมดสภาพ ไม่สามารถใช้ดำเนินการได้อีก ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ยังมีหลายจุดที่มีการรุกล้ำเขตแดนที่ไทยกำหนดไว้ที่ต้องดำเนินการต่อ ตอนนี้ยังใช้ความพยายามในการไล่รื้อถอนให้ครบ 17 จุด เหลืออีกเล็กน้อยก็จะเรียบร้อย การจะรื้อถอนใด ๆ จะอยู่ในเกณฑ์ที่กัมพูชายอมรับได้
เป้าหมาย “กาสิโน” รื้อถอนสุดท้าย
ส่วนตึกกาสิโน ก็เป็นอีกจุดหนึ่งในตำบลแหลมกลัด อำเภอเมือง จังหวัดตราด ที่เป็นจุดสุดท้าย อาจต้องขอความร่วมมืออีกหลายฝ่ายในการเข้าไปดำเนินการ เพราะตึกใหญ่มาก เพราะในพื้นที่ดังกล่าวไม่ใช่เฉพาะฐานทหารของกัมพูชา หรือ บ้านเรือนกัมพูชาเท่านั้นที่รุกล้ำเข้ามา
ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมี JBC หารือชัดเจน
ทั้งนี้ มีรายงานว่า กองทัพทำหน้าที่รักษาอธิปไตยตามแนวชายแดนอย่างเข้มข้นอยู่แล้ว แต่เรื่องเขตแดนต้องมีการเร่งหารือผ่านกลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ JBC ที่ต้องรอคณะรัฐมนตรีอนุมัติ ซึ่งเมื่อมีความชัดเจนก็จะทำให้การวางกำลังของแนวทหารให้เกิดความชัดเจนเช่นกัน
นักวิชาการ แนะไทยควรปักปันเขตแดนให้จบ
ถามความเห็นเรื่องนี้กับ นายทรงฤทธิ์ โพนเงิน นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง ให้มุมมองถึงแนวคิดใช้อาคารกาสิโนทมอดาซิตี เป็นอาคารตรวจการณ์ร่วม ส่วนตัวเห็นว่าไม่ควรทำ เพราะสถานการณ์ไม่ปกติ ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ากัมพูชามีเจตนาดีหรือไม่ ควรปักปันเขตแดนให้ชัดเจนขึ้นมาเสียก่อน แล้วถ้าจะพัฒนาอะไรร่วมกันก็ค่อยว่ากันอีกที แต่ขณะเดียวกันก็ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่ากาสิโนในบ้านเรายังเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เราจะไปบริหารร่วมกับกัมพูชาได้อย่างไร
สำหรับเรื่องการปักปันเขตแดน มองว่ามีความคืบหน้าไปมาก ขาดการสำรวจหลักเขตแดนอีกประมาณ 20 จุดก็จะเรียบร้อย ตอนนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับไทย แต่ขึ้นอยู่ที่ว่ากัมพูชาจะมาร่วมกันทำต่อหรือไม่
นายกฯ ลั่นพร้อมยกเลิก MOU ไทย-กัมพูชา
นายกรัฐมนตรี ชี้เอ็มโอยูไทย-กัมพูชาทำมา 20 กว่าปี แต่ไม่มีประโยชน์ ลั่นถ้าเป็นตัวเองตัดสินใจคงยกเลิกไปนานแล้ว ส่วนการทำประชามติว่า จะยกเลิกเอ็มโอยู ไทย-กัมพูชาหรือไม่ ถือเป็นการให้เกียรติประชาชน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย บอกว่า การทำประชามติสอบถามประชาชนว่าจะยกเลิกเอ็มโอยูไทย-กัมพูชาหรือไม่นั้น ไม่ได้ผลักภาระให้ประชาชน แต่ต้องการให้ประชาชนได้มีส่วนร่วม และให้เกียรติประชาชน จึงอยากจะถามประชาชนก่อน แต่ถ้าเป็นตนเองทำเองยกเลิกไปนานแล้ว เพราะเอ็มโอยูทั่วไปจะเขียนว่าภายใน 2 ปี หากไม่บรรลุวัตถุประสงค์ก็ต้องถือว่าเป็นอันสิ้นสุด ไม่เข้าใจว่าจะเก็บไว้ทำไมตั้ง 20 กว่าปี
“อนุทิน” เบรกไอเดีย ยังไม่ทำ “เมืองคู่แฝด”
ส่วนกรณีที่ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีแนวคิดทำเมืองคู่แฝด บ้านหนองจาน-บันเตียเมียนเจย เพื่อแก้ปัญหารุกล้ำเขตชายแดนไทย-กัมพูชา นายอนุทิน บอกว่า ตอนนี้ยังไม่ทำ เป็นเพียงแนวคิด หากพูดคุยกันได้ แต่ตอนนี้ยังพูดคุยไม่ได้ก็ยังไม่ต้องไปคิดเรื่องนั้น ตอนนี้เน้นเรื่องการรักษาอธิปไตยและดินแดนของประเทศ และดำเนินการตามกฎหมายให้เคร่งครัด