ข่าวภาคค่ำ - มาติดตามเรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังมีการตรวจพบทุ่นระเบิดจำนวนมาก นอกจากนี้ยังเป็นวันสุดท้ายการทำงานของนายทหารระดับสูงหลายท่านด้วย
ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ หรือ TMAC เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติงานของชุดปฏิบัติการเก็บกู้ และกวาดล้างทุ่นระเบิด ในพื้นที่ภูมะเขือ, ช่องอานม้า และช่องบก ในห้วงหลังจากประกาศหยุดยิง จำนวน 2 เฟส โดยเฟสแรก สามารถเก็บกู้ทุ่นระเบิด และเก็บสรรพาวุธระเบิด ได้จำนวน 1,575 รายการ และในเฟสที่ 2 สามารถเก็บกู้ได้ 2,879 รายการ
ขณะที่พื้นที่ของหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างถนน เลียบตามแนวชายแดน ระยะทาง 15 กิโลเมตร ได้ส่งเจ้าหน้าที่ช่างเข้าเคลียร์พื้นที่ตลอดแนว ส่งผลให้ตรวจพบวัตถุระเบิด และทุ่นระเบิดในพื้นที่อีกจำนวนมาก
ด้านกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี และตราด ได้สนธิกำลังกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ทำการจับกุมชาวกัมพูชา ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายจำนวน 45 คน โดยมีนายหน้าเป็นชาวไทย 3 คน นำพาเข้าประเทศ คิดค่าหัวคนละ 5,000-7,000 บาท พร้อมรับสารภาพต้องการเข้าไปทำงานในพื้นที่ชั้นใน เนื่องจากสภาพความเป็นอยู่ในประเทศกัมพูชา มีความแร้นแค้น และไม่มีรายได้จุนเจือครอบครัว
ส่วนการยกเลิก MOU 2543 และ 2544 กับกัมพูชา ด้วยการทำประชามติ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาของกรรมาธิการว่า จะยกเลิกฉบับใดบ้าง ซึ่งยังต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง โดยส่วนตัวมองว่า หากไม่เป็นประโยชน์ ก็จะยกเลิกทันที
ส่วนแนวคิดจัดตั้งเขตเมืองคู่แฝด ระหว่างบ้านหนองจานของไทยกับบันเตียเมียนเจยของกัมพูชา นายกรัฐมนตรี ยืนยัน แนวคิดดังกล่าว ยังไม่ใช่เรื่องพิจารณาในเวลานี้ เพราะรัฐบาลให้ความสำคัญกับการรักษาอธิปไตยเป็นหลัก
ขณะที่วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการทำงานของนายทหารระดับสูง และมีการส่งมอบตำแหน่งให้กับผู้บัญชาการท่านใหม่ ซึ่งที่กองบัญชาการกองทัพไทย ก็มีการจัดพิธีแบบเรียบง่าย ไม่มีพิธีสวนสนาม เพราะยังอยู่ในห้วงเวลาของการไว้อาลัย จากเหตุการณ์การปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
โดย พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ถึงกับมีน้ำเสียงที่สั่นเครือ เมื่อพูดถึงกำลังพล 15 นายที่เสียชีวิต โดยภารกิจสุดท้ายวันนี้ คือการเดินทางไปให้กำลังใจ 15 ครอบครัว อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ผู้บัญชาการทหารสูงสุดคนใหม่ จะสามารถนำพากองทัพให้ไปข้างหน้าได้อย่างสง่างาม
เช่นเดียวกับกองทัพอากาศ ก็มีการจัดพิธีรับ-ส่งมอบหน้าที่ผู้บัญชการทหารอากาศ โดยมีการเดินสวนสนาม จำนวน 4 กองพัน และมีอากาศยานเครื่องบินขับไล่กริพเพนจำนวน 1 เครื่อง จากฝูงบิน 701 กองบิน 7 เพื่อเป็นเกียรติ ร่วมพิธี ซึ่งผู้บัญชาการทหารอากาศคนใหม่ เปิดเผย ไม่มีเวลาเลี้ยงฉลองรับตำแหน่ง เพราะยังมีทหารปฏิบัติหน้าที่อยู่ตามแนวชายแดน สิ่งแรกที่จะดำเนินการคือ สั่งการทุกหน่วยเตรียมปฏิบัติภารกิจ พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการสงคราม แต่ถ้าต้องการสันติภาพ เราต้องพร้อมรบ
ขณะที่วันนี้เป็นวันทำงานวันสุดท้ายของ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันจะยังไม่หายไปไหน ยังอยู่ช่วยงานกองทัพ เป็นที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก แม้ว่าวันพรุ่งนี้จะกลายเป็นแค่ลุงคนหนึ่ง ส่วนแม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ ไม่มีอะไรต้องฝากฝัง เพราะที่ผ่านมาก็ร่วมงานด้วยกันมาตลอด
