เช้านี้ที่หมอชิต - ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมจากอิทธิพลของพายุบัวลอย ทำให้หลายจังหวัดทางภาคเหนือน้ำป่าไหลหลาก ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนไม่ทันตั้งตัว อย่างเช่นจังหวัดพะเยา
น้ำท่วมฉับพลัน "อำเภอปง" อ่วมหนัก จ.พะเยา
เรียกว่าน้ำมาแบบไม่ทันตั้งตัว นาทีที่กระแสน้ำป่าหลากรุนแรงจากเทือกเขาเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนพื้นที่ บ้านผาตั้ง หมู่ 6 และ บ้านใหม่สารภี หมู่ 11 ตำบลขุนควร อำเภอปง จังหวัดพะเยา ช่วงเช้าวานนี้
นอกจากนี้ในพื้นที่ตำบลงิม อำเภอปง น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนชาวบ้านหลายร้อยหลังคาเรือน บางจุดน้ำสูงถึง 50 เซนติเมตร แม้ตลอดทั้งวันน้ำท่วมหลายจุดลดระดับลงแล้ว แต่ช่วงค่ำที่ผ่านมา มีรายงานว่าฝนตกหนักในพื้นที่อำเภอปง ชาวบ้านหวั่นใจว่าน้ำจะหลากท่วมซ้ำอีกรอบ
"อำเภอแม่สะเรียง" อ่วมหนัก ในรอบ 20 ปี จ.แม่ฮ่องสอน
อีกจุดก็อ่วมหนัก คืออำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำแม่ยวมหลากท่วมบ้านเรือนประชาชนริมแม่น้ำยวม พื้นที่ตำบลบ้านกาศ กับ ตำบลแม่คง นอกจากนี้ถนนหนทาง สะพาน ถูกน้ำซัดพังเสียหาย ชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นน้ำท่วมใหญ่ในรอบ 20 ปี
ส่วนการช่วยเหลือชาวบ้านประสบภัยครั้งนี้ ทางปกครองอำเภอแม่สะเรียง ทหารพรานที่ 36 ตำรวจภูธรแม่สะเรียง ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยชาวบ้านต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
ดินไหลทับบ้าน เสียชีวิต 1 คน จ.แม่ฮ่องสอน
นอกจากนี้ยังมีเหตุดินไหลทับบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ตำบลแม่ยวม อำเภอแม่สะเรียง ทำให้ชาวบ้านเสียชีวิต 1 คน เป็นผู้หญิง อายุ 38 ปี
จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับผลกระทบรวม 3 อำเภอ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน อำเภอแม่สะเรียง และอำเภอแม่ลาน้อย 6 ตำบล 36 หมู่บ้าน ขณะนี้เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อเยียวยาช่วยเหลือชาวบ้านต่อไป
มณฑลทหารบกที่ 33 ช่วยประชาชน จ.เชียงใหม่
ที่เชียงใหม่ กำลังพลจากกองบังคับการควบคุมผาดง หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ กองกำลังผาเมือง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตำบลทุ่งข้าวพวง และชาวบ้าน ช่วยกันกรอกกระสอบทรายนำไปวางเสริมคันกั้นแม่น้ำปิง ตรงจุดเสี่ยงน้ำท่วม พื้นที่บ้านทุ่งข้าวพวง ตำบลทุ่งข้าวพวง อำเภอเชียงดาว หลังฝนตกหนักในพื้นที่ต่อเนื่อง เพื่อป้องกันน้ำท่วม
นอกจากนี้ ทหารยังสำรวจพื้นที่จุดเสี่ยงทุกจุด เพื่อจะได้ให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที
อาสากู้ภัยฯ ช่วยชาวบ้านติดอยู่บนหลังคา จ.อุตรดิตถ์
เวลา 20.30 น. ที่ผ่านมา ทีมตอบโต้ภัยพิบัติ มูลนิธิเพชรเกษม เข้าช่วยเหลือชาวบ้าน บ้านวังปรากฏ ตำบลป่าคาย อำเภอทองแสนขัน หลายชีวิตต้องหนีขึ้นไปหลบอยู่บนหลังคาบ้านตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ เพื่อรอคอยความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ท่ามกลางความมืดมิด
ส่วนอุปสรรคในพื้นที่ คือ กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวบวกกับความมืด คาดว่าตลอดทั้งคืน ทางทีมกู้ภัยฯ จะช่วยอพยพชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง มายังพื้นที่ปลอดภัยให้ได้มากที่สุด
เบื้องต้นพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้รับผลกระทบแล้ว 3 อำเภอ อำเภอน้ำปาด อำเภอทองแสนขัน และอำเภอท่าปลา จำนวน 5 ตำบล 2,000 ครัวเรือน
ทางศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดอุตรดิตถ์ (EOC) ได้เร่งจัดหาเรือเพื่ออพยพประชาชน และเตรียมเครื่องอุปโภคบริโภค รวมถึงสิ่งจำเป็นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนชาวบ้าน
"แม่น้ำป่าสัก" ทะลักท่วม "หล่มสัก" อีกรอบ จ.เพชรบูรณ์
ที่อ่วมไม่แพ้กัน คือ เทศบาลเมืองหล่มสัก และชุมชนใกล้เคียง จังหวัดเพชรบูรณ์ น้ำจากแม่น้ำป่าสัก ทะลักเข้าท่วมเป็นรอบที่ 5 หลังพนังกั้นน้ำขาดหลายจุด ทำให้เทศบาลเมืองหล่มสัก ต้องประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ลุ่ม เร่งขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง
และกลางดึกที่ผ่านมา ทางอาสากู้ภัย ทั้งร่วมกตัญญู กู้ภัยกกไทรหล่มสัก กู้ภัยสว่างหล่มสัก ช่วยกันทำงานแข่งกับเวลา นำเรือท้องแบนช่วยเหลือเคลื่อนย้ายผู้ป่วย และอพยพประชาชนในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก มายังพื้นที่ปลอดภัย แต่การทำงานค่อนข้างลำบาก เนื่องจากบางจุดน้ำไหลเชี่ยว แต่สุดท้ายอาสากู้ภัยก็ช่วยชาวบ้านได้สำเร็จ
ขณะนี้ ทางเทศบาลเมืองหล่มสัก ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ซ่อมพนังกั้นน้ำจุดที่รั่ว พร้อมกับติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำ คาดว่าเช้าวันนี้ (1 ต.ค.) น่าจะมีข่าวดี หากไม่มีฝนตกซ้ำในพื้นที่