อย่านำความสำเร็จในอดีตมาตัดสินแทนอนาคต กำลังพลหน้าแนวต้องมีหัวใจ ที่เข้มแข็ง ร่างกายพร้อมในการปกป้องชาติ สส. ประชาชน ซัดหน้าที่ของรัฐมนตรีช่วยฯ ไม่ใช่การพิสูจน์ว่ามาม่า ปลากระป๋องก็เพียงพอ แต่คือการพัฒนาระบบส่งกำลังบำรุง
หลังการแถลงนโยบายรัฐบาลเสร็จสิ้นลง วันนี้ (1 ต.ค.68) เรืออากาศโท ธนเดช เพ็งสุข สส.กรุงเทพฯ พรรคประชาชน ให้ความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงประเด็นทหารหน้าแนวขาดเสบียง มีแต่มาม่ากับปลากระป๋อง โดยระบุว่า การส่งกำลังบำรุงไม่ใช่เรื่องเล็ก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องคิดแก้ไข พัฒนา ไม่ใช่ย้อนอดีตมาเล่าความลำบาก ตนได้ฟังคำชี้แจงของ พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ตอบโต้ประเด็น “ฝากดูแลทหารไทยรอบภูมะเขือ ยังกินแต่มาม่า ปลากระป๋อง” ด้วยการบอกว่า “มาม่า ปลากระป๋อง น้ำหนึ่งขวดก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว” ซึ่งไม่ใช่คำตอบที่ดีจากผู้บริหาร
ธนเดช ระบุว่า ในอดีตการส่งกำลังบำรุงอาจเต็มไปด้วยข้อจำกัดไม่มีเทคโนโลยีการสื่อสาร ไม่มีระบบขนส่งที่คล่องตัว อาหารสำเร็จรูปจึงอาจเพียงพอในภาวะยากลำบาก แต่วันนี้โลกเปลี่ยนไปแล้ว กองทัพสหรัฐฯ มี MRE (Meal Ready to Eat) ที่ออกแบบตามหลักโภชนาการครบถ้วน พกพาสะดวก และรักษาสุขอนามัยของกำลังพล
กองทัพไทยเอง โดยกรมพลาธิการก็ได้พัฒนา MRE แล้วเช่นกัน เพียงแต่ต้องจัดหาให้เพียงพอพัฒนา และใช้งานได้จริงในพื้นที่ชายแดน วันนี้สิ่งที่สังคมและกำลังพลรอคอย ไม่ใช่คำชี้แจงที่ย้อนอดีตไปเล่าความลำบากว่า อดีตเราอยู่ได้ แค่นี้ก็ดีแล้ว แต่คือการประกาศว่า วันนี้เราจะทำอย่างไรให้ดีกว่าเดิม
ธนเดช ระบุด้วยว่า หน้าที่ของรัฐมนตรีช่วยฯ ไม่ใช่การพิสูจน์ว่า มาม่า ปลากระป๋องก็เพียงพอ แต่ต้องตอบให้ได้ว่า จะพัฒนาระบบส่งกำลังบำรุงอย่างไร จะใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างไร และจะจัดหาเสบียงที่มีคุณภาพเพียงพอให้กับกำลังพลแนวหน้าได้อย่างไร
“เรารับรู้ว่าความภาคภูมิใจของทหารทุกคนคือการได้ปกป้องอธิปไตย แต่ในขณะเดียวกัน ความรับผิดชอบท่านคือการทำให้ทหารทุกนายมีเสบียงที่ดีเพียงพอ มีขวัญมีกำลังใจ มีความปลอดภัย มีคุณภาพชีวิตที่ดี อย่านำความสำเร็จในอดีตมาตัดสินแทนอนาคต สิ่งที่ท่านควรทำคือสร้างมาตรฐานใหม่ของการส่งกำลังบำรุงที่ตอบโจทย์ยุคสมัย เพื่อให้พี่น้องกำลังพลมีทั้ง หัวใจ ที่เข้มแข็ง และร่างกาย ที่พร้อมที่สุดในการปกป้องชาติ”
