แม่กับพี่สาวฝันเห็นพ่อที่ตายไปแล้ว คล้ายเป็นลางบอกเหตุ ก่อนที่ชายอายุ 48 ปี จะถูกไฟช็อตจนเสียชีวิตต่อหน้าผู้เป็นแม่
เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 1 ตุลาคม 2568 ร.ต.ท.รัฐธรรมนูญ อาษานอก รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุชายถูกไฟฟ้าช็อตเสียชีวิต เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่ง ใน บ.นาดอน ม.16 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งเหตุจึงออกไปตรวจสอบพร้อมด้วย แพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน เบื้องต้น อสม.ชุมชนนาดอน และชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ ได้ทำการช่วยกันปั๊มหัวใจ CPR นานเกือบ 20 นาที แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตเอาไว้ได้
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ที่บริเวณหน้าบ้านพบกระบะไม้พ่วงรถไถ มีร่องรอยถูกไสไม้ขอบกระบะ เพื่อซ่อมบำรุง ที่พื้นมีกบไสไม้ไฟฟ้า 1 อัน ที่ขั้วสายไฟมีการชำรุด สายทองแดงโผล่ออกมาอย่างชัดเจน ใกล้กันพบอุปกรณ์ช่างอีกหลายชนิดตกอยู่ที่พื้นที่หน้าบ้าน ที่แคร่ไม้หน้าบ้านพบศพนายยงค์ อายุ 48 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน ตามร่างกายไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 30 นาที โดยมีนางทองอ่อน อายุ 72 ปี แม่ผู้ตายและเจ้าของบ้าน นั่งรอให้การกับเจ้าหน้าที่
นางวิลัยวรรณ อายุ 56 ปี อสม.ชุมชน เล่าว่า ตนมีบ้านอยู่ตรงข้ามกับบ้านที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงร้องตะโกนให้ช่วย จึงรีบวิ่งมาดู ก็เห็นคนตายนอนหงายหายใจรวยรินอยู่ที่พื้น เมื่อดูเหตุการณ์รู้เลยว่าผู้ตายถูกไฟช็อตจากกบไสไม้ไฟฟ้า จึงถามหาชุดต่อไฟ และวิ่งเข้าไปดึงปลั๊กออก แล้วรีบมาปั๊มหัวใจ ผายปอด ช่วยอยู่นาน 20 นาที จึงเปลี่ยนให้คนอื่นมาปั๊มต่อ ชาวบ้านก็พากันอุ้มร่างคนตายมาบนแคร่ไม้ ตนก็โทร 1669 จากนั้นก็มาช่วยปั๊มหัวใจต่อ เมื่อคลำดูชีพจรก็รู้ว่าช่วยไม่ได้แล้ว แม่คนตายก็บอกว่าไม่ต้องช่วยแล้ว แม่คนตายบอกว่าตอนแรก คนตายร้องและล้มลงไปนอนที่พื้น 1 ครั้ง ก่อนสะดุ้งตัวขึ้นมาแล้วพูดว่า “เกือบตายแล้วกู” จากนั้นเขาก็ค่อยๆ วูบลงไปอีกครั้ง
นายสงกรานต์ อายุ 58 ปี ผู้ใหญ่บ้าน บ.นาดอน เล่าว่า ผู้ตายมีอาชีพทำนา ไปปลูกเถียงนาอยู่ที่ที่นา เขาได้เอากระบะไม้มาทำการซ่อมแซมที่บ้านแม่หลังนี้ เพราะที่นาไม่มีไฟฟ้า ทำมาได้อาทิตย์กว่าแล้ว เขาบอกว่าจะเอาไปพ่วงรถไถ เอาไว้ขนไม้ไปเผาถ่าน หรือขนสิ่งของไปไร่ไปนา จากการตรวจสอบพบว่าที่กบไฟฟ้าที่เขาใช้ไสไม้ มีจุดชำรุดขาดเสียหาย คาดว่าคงจะถูกคมใบมีดของกบไฟฟ้าดูดเข้าไปและเฉือนสายไฟฟ้าจนขาด เมื่อสายไฟสัมผัสกับกบไฟฟ้าที่เป็นเหล็กทั้งอัน ก็จะช็อตหรือดูดผู้ตายจนล้มลง จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต
นางทองอ่อนฯ แม่ผู้ตาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนนั่งเล่นที่เปลหน้าบ้านกับเพื่อนบ้าน ส่วนลูกชายก็มาซ่อมรถตั้งแต่ 9 โมงเช้า เขาไสไม้อยู่นานแล้ว จากนั้นเขาก็ร้องตกใจเสียงดัง นั่งกำมืออ้าปากค้างอยู่ แล้วนอนหงายนิ่งไป ตนเลยลุกไป ตอนนั้นลูกได้ลุกมานั่งพูดอยู่แปบเดียว บอกว่าเกือบตาย ตนหายาหม่องไปให้ลูกดม เพราะคิดว่าเป็นลม แล้วเขาก็หงายท้องลงไปนอนอีกครั้ง ตนตกใจทำอะไรไม่ถูก ก็ร้องเรียกชาวบ้านมาช่วยลูกชาย จึงรู้ว่าลูกถูกไฟช็อต ก่อนหน้า 2 วัน ตนฝันไม่ดี ฝันว่าสามีที่ตายไปแล้วมาทุบกำแพงบ้าน และทุบฝาโอ่ง ลูกชายก็โมโหไม่พูดอะไร เอาแต่นั่งนิ่งๆ ก็ไม่รู้ว่าในฝันเขาโกรธอะไรกัน เมื่อเกิดเหตุนี้ขึ้นก็คงจะเป็นลางบอกเหตุไม่ดีล่วงหน้า
ด้าน น.ส.ยุวธิดา อายุ 44 ปี น้องสาวคนตาย เล่าว่า มีพี่น้อง 3 คน มีพี่ชาย 2 คน คนตายเป็นคนกลาง ตนอยู่บ้านนี้กับแม่และลูกชายตนรวม 3 คน ก่อนเกิดเหตุตนออกไปทำงานตั้งแต่เช้า ก็มีแม่อยู่เฝ้าบ้าน ลูกชายตนก็ออกไปเรียน พี่ชายนำรถมาซ่อมที่บ้านเกือบ 2 อาทิตย์แล้ว วันไหนฝนตกพี่ชายก็จะไม่มา เรื่องไฟฟ้าอะไรพวกนี้ก็ไม่เคยเตือนกัน แต่พี่ชายเป็นคนมุทะลุ ก็ไม่นึกว่าจะมีเหตุการณ์สลด เสียใจที่ต้องเสียพี่ชายไป คืนก่อนตนก็ฝันไม่ดีเหมือนกัน ฝันว่าพ่อที่ตายไปแล้ว เอาปัตตาเลี่ยนมาโกนหัวตน ตนก็คิดว่าพ่ออาจจะมาบอกเหตุร้ายก็เป็นได้
เบื้องต้นแพทย์เวรระบุว่า ยังไม่พบรอยไหม้หรือจุดที่คนตายถูกไฟช็อตตามร่างกาย คาดว่าไฟฟ้าอาจจะรั่วใส่บางจุดก่อนแต่ไม่รุนแรง แต่การเสียชีวิตอาจจะเกิดจากหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือหัวใจวายเฉียบพลัน ส่วนทางญาติก็ไม่ได้ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต จึงมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี และทางผู้ใหญ่บ้านก็ได้เตือนลูกบ้านคนอื่น ว่าให้ระมัดระวังในการใช้เครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับกระแสไฟฟ้า ให้หมั่นตรวจสอบให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เพื่อป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดซ้ำได้อีกในอนาคต