"โดนัลด์ ทรัมป์" เรียกร้องให้อิสราเอลหยุดทิ้งระเบิด หลัง “ฮามาส” ยอมตกลงปล่อยตัวประกัน-รับข้อเสนอบางส่วนในแผนสันติภาพของสหรัฐฯ แต่วันนี้อิสราเอลยังคงเดินหน้าถล่มฉนวนกาซา คร่า 6 ชีวิต
วันนี้ (4 ต.ค. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เผยว่า กลุ่มฮามาส (Hamas) พร้อมสำหรับสันติภาพแล้ว และยอมตกลงที่จะปล่อยตัวประกันรวมทั้งยอมรับเงื่อนไขอื่น ๆ ในแผนสันติภาพ 20 ข้อของสหรัฐฯ ที่จะยุติสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส หลังก่อนหน้านี้ “ทรัมป์” ได้ขู่ว่าจะให้เวลากับกลุ่มฮามาสจนถึงวันอาทิตย์ในการยอมรับข้อตกลง มิฉะนั้นจะต้องเผชิญกับผลที่ตามมาที่ร้ายแรง
นอกจากนี้ “โดนัลด์ ทรัมป์” ยังได้เรียกร้องให้อิสราเอลหยุดการทิ้งระเบิดใส่พื้นที่ฉนวนกาซาโดยทันที เพื่อที่จะได้นำตัวประกันออกมาอย่างปลอดภัยและรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม แม้ว่า “ทรัมป์” จะออกมาร้องขอให้อิสราเอลหยุดทิ้งระเบิด แต่วันนี้ก็ยังมีรายงานว่า อิสราเอลทิ้งระเบิดโจมตีในหลายพื้นที่ของฉนวนกาซา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน
ด้านนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล กล่าวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า อิสราเอลกำลังเตรียมการสำหรับ "ดำเนินการทันที" ตามแผนขั้นแรกของสหรัฐฯ หลังกลุ่มฮามาสตอบรับข้อเสนอ และยืนยันว่าจะร่วมมือกับสหรัฐฯ เพื่อจบสงครามตามหลักการของตัวเอง
ทั้งนี้ ในสงครามที่ยาวนานเกือบ 2 ปี หลังกลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,200 คน และมีผู้ถูกจับเป็นตัวประกัน 251 คน ซึ่งขณะนี้ยังมีตัวประกันถูกจับไว้อยู่อีก 48 คน คาดว่ายังคงมีชีวิตอยู่ 20 คน และการตอบโต้กลับของกองทัพอิสราเอล ทำให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตกว่า 66,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือน รวมทั้งประชาชนทั่วฉนวนกาซาต้องเผชิญกับภาวะความอดอยาก