คันดินแตกชาวบ้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอพยพหนีน้ำ นอนบนถนน

คันดินแตกชาวบ้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอพยพหนีน้ำ นอนบนถนน

View icon 183
วันที่ 5 ต.ค. 2568 | 13.33 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
คันดินแตกชาวบ้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ขนของนอนบนถนน ชาวบ้านเผยแม้จะชินแต่ก็ไม่อยากให้ท่วม พื้นที่ลุ่มต่ำรับกรรมทุกปี

(5 ต.ค.68)  สถานการณ์น้ำปัจจุบัน ที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านจุดวัดอยู่ที่ 2,753 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่วนที่สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 16.21 เมตร/รทก. มีปริมาณน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 15.94 เมตร/รทก. ซึ่งระดับน้ำทรงตัว ห่างจากตลิ่ง 40 ซม. และเขื่อนเจ้าพระยามีอัตราการระบายน้ำผ่านเขื่อนอยู่ที่ 2,500 ลบ.ม./วินาที วันที่ 3 ติดต่อกัน จึงส่งผลทำให้ ที่สถานี C.3 บ้านบางพุทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 2,608 ลบ.ม./วินาที

จากการปรับเพิ่มการระบายดังกล่าว ทำให้เมื่อช่วงบ่ายวานนี้แนวคันดินกันน้ำท่วมหน้าวัดสมอ ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ที่ทำไว้แตก น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 100 หลังคาเรือน ประชาชนต้องรีบอพยพและขนของหนีน้ำ ขึ้นไปพักอาศัยริมถนนสายคันคลองมหาราช เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

โดยในพื้นที่วัดสมอ ต.โพนางดำออก ระดับน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน สูง 10-120 ซม. บ้านชั้นเดียวไม่สามารถอยู่อาศัยได้ บางบ้านที่เป็น 2 ชั้น ต้องขึ้นไปอาศัยอยู่ด้านบน ทั้งนี้ชาวบ้านเริ่มใช้เรือในการสัญจร

ส่วนที่บริเวณถนนสายคันคลองมหาราช ชาวบ้านเริ่มมาสร้างเพิงพัก สั่งเช่าเต็นท์จากภาคเอกชนมากางริมถนนเพื่ออยู่อาศัย ขนข้าวของที่มีค่า และจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ขึ้นมานอนริมถนน ตลอดเส้นทางยาวประมาณ 5 กม. ประมาณมากกว่า 100 หลังคาเรือน รวมกว่า 400 คน

นางธมนวรรณ  อายุ 53 ปี ชาวบ้านต.โพนางดำออก เปิดเผยว่า เกิดมา 53 ปี ก็ชินแต่ไม่อยากให้ท่วม แต่เพราะทางเทศบาลสู้กันทั้งวันทั้งคืน ถือว่าเป็นภัยธรรมชาติ พอท่วมก็ขนของรีบมาอยู่ริมถนนเหมือนทุกครั้งที่น้ำหลาก อยากฝากไปบอกทางผู้บริหารจัดการน้ำ ให้บอกมาเลยว่าน้ำท่วมหรือไม่ท่วม ไม่ใช่มาระบาย ๆ เพิ่มต้นน้ำเยอะ แบบนี้ก็ท่วมแน่นอน พื้นที่ลุ่มต่ำก็ต้องมารับกรรมทุกปี ๆ ที่น้ำเยอะ ทางกรมชลประทานคิดจะปล่อยก็ปล่อย แถมปล่อยน้ำกลางคืน น้ำขึ้นเยอะ ทำอะไรก็ลำบาก พอคันดินแตกน้ำไหลเร็วแรงเหมือนน้ำป่าไหลหลากแบบนี้ประชาชนรับมือกันไม่ไหว