เจ้าของสิงโตยอมรับผิด เยียวยาคนเจ็บเต็มที่ พร้อมให้เจ้าหน้าที่รับสิงโตไปดูแล

เจ้าของสิงโตยอมรับผิด ไม่รู้สิงโตกระชากโซ่หลุดไปตอนไหน  ขอโทษ พร้อมเยียวยาผู้บาดเจ็บเต็มที่  ด้านชาวบ้านเผย สิงโต เคยหลุดออกมาแล้ว 2 ครั้ง สร้างความหวดกลัวให้ชาวบ้าน

(5 ต.ค.68) เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 บ้านโป่ง เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอุทยานสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จังหวัดกาญจนบุรี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ตำบลหนองกุ่ม อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกันลงพื้นที่ไปยังบ้านที่เลี้ยงสิงโต ในตำบลหนองกุ่ม อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี หลังเกิดเหตุสิงโต เพศเมีย อายุ 1 ปีเศษ หลุดออกมาทำร้ายชาวบ้านในพื้นที่

โดยบ้านหลังดังกล่าวอยู่ภายในเขตชุมชน มีทั้งร้านค้าและบ้านเรือนประชาชนอยู่ใกล้เคียงจำนวนมาก  เจ้าของสิงโต ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบบริเวณ กรงขังสิงโต

เจ้าของสิงโต ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุ  ได้ทำการปรับปรุงกรง เลยนำสิงโตออกมาอยู่ด้านนอก และ ใช้โซ่ล่ามคอไว้ ไม่ทราบว่าสิงโตกระชากโซ่หลุดตอนไหน มาทราบเรื่อง ตอนที่ชาวบ้านมาเรียกให้ไปดูว่าสิงโตหลุดและกำลังกัดเด็กอยู่ ตนเองได้รีบเข้าไปล็อกสิงโตแล้วพากลับเข้าบ้าน ส่วนเด็กและชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งนายปริญญา พร้อมรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดอย่างเต็มที่

เจ้าของสิงโต ได้ขอโทษครอบครัวเด็ก และ  ชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บ ยอมรับว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากความผิดพลาดของตนเอง โดยหลังจากนี้ ยินดีที่จะส่งมอบสิงโตตัวดังกล่าวให้ไปอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ที่บึงฉวากต่อไป

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับชาวบ้านบริเวณดังกล่าว บอกว่า ก่อนเกิดเหตุ เด็กอายุ 11 ขวบ กำลังวิ่งกลับบ้านหลังจากเล่นเสร็จ ซึ่งบ้านอยู่ห่างจาก บ้านที่เลี้ยงสิงโตไปเล็กน้อย จากนั้นได้ยินเสียงเด็กร้อง พอออกมาดูก็พบสิงโตยืนคร่อมตัวเด็ก จึงร้องขอความช่วยเหลือ กระทั่งมีชายซึ่งอยู่บ้านใกล้เคียง ออกมาดูเหตุการณ์ และเข้าไปสู้กับสิงโตอย่างกล้าหาญ จนสามารถช่วยชีวิตเด็กออกมาได้สำเร็จ

ชาวบ้านยังให้ข้อมูลอีกว่าสิงโตตัวดังกล่าว ถูกนำมาเลี้ยงอยู่ที่บ้านหลังนี้ประมาณ 1 ปีเศษ เป็นสิงโตเพศเมีย ชื่อมเหสี อายุประมาณ 1 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมาเคยหลุดออกมาจากโรงแล้ว 2 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ยอมรับว่า ตนและชาวบ้านในพื้นที่รู้สึกกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการขนย้ายสิงโตตัวดังกล่าวออกไปจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านทุกคน